แบตโน๊ตบุ๊คชาร์จไม่เข้า
ตุลาคม 22, 20197 อันดับจอเกมมิ่งที่ดีที่สุดในปี 2021
มีนาคม 30, 2021ปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาแบตโน๊ตบุ๊คเสื่อมเกิดได้หลายสาเหตุ ทั้งพฤติกรรมของผู้ใช้เองและเรื่องของระยะเวลา ปัญหาดังกล่าวทำให้ผู้ใช้เกิดความกังวลจึงต้องการศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการป้องกันไม่ให้แบตโน๊ตบุ๊คเสื่อมก่อนเวลาอันควร อย่างที่ทุกคนทราบกันดีกว่าการเปลี่ยนแบตเตอรี่ต่อครั้งนั้นต้องใช้เงินประมาณหนึ่งซึ่งแน่นอนว่าของแท้จะมีราคาที่สูงกว่าแบตเตอรี่เทียบอยู่แล้ว และควรสนับสนุนของแท้เพราะถ้าจะใช้งานยาวๆ (ไม่ได้มีแพลนจะเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คใหม่ในเร็วๆ นี้) ของแท้มีประสิทธิภาพดีกว่าของเทียบอยู่แล้ว ถ้าใครไม่ติดเรื่องงบประมาณก็ใช้ของแท้ไปเลยคุ้มกว่า สบายใจกว่า แต่ถ้าไม่อยากให้วันนั้นมาถึงเร็วเกินไปนักล่ะก็ มาดูกันว่ามีสาเหตุอะไรบ้างที่เป็นปัจจัยทำให้แบตเตอรี่เสื่อม หรือ ไปกระตุ้นให้เสื่อมเร็วขึ้น
สนใจแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คติดต่อเรา JUDSPEC.COM พร้อมให้ข้อมูลสินค้าทุกตัวที่คุณต้องการ
1. ร้อนเกินไป
เคยไหม? บ่อยครั้งที่ปล่อยให้โน๊ตบุ๊คร้อนเกินไปจากการใช้งานที่หนักหน่วง หรือ วางโน๊ตบุ๊คในพื้นที่ที่มีความร้อนสูง เช่น วางไว้ในรถ หรือ ไม่ใช้แผ่นรองอย่าง Cooling Pad เข้าช่วยเวลาทำงาน (เป็นอุปกรณ์ตัวช่วยหนึ่งที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คให้นานกว่าเดิม ข้อดีอื่นๆ คือช่วยปรับระดับการมองหน้าจอได้อย่างที่ต้องการ) ถ้าคำตอบคือ เคย และทำเป็นประจำ บอกได้เลยว่าอาจมีกำหนดการเปลี่ยนเครื่องใหม่หรือแบตใหม่ในเร็วๆนี้ หากเป็นช่วงเวลาที่ฉุกละหุกต้องทำในพื้นที่นั้นๆ แนะนำ “ฝาขวดน้ำอัดลม” ไปรองโน๊ตบุ๊คทั้ง 4 ด้าน ชั่วคราวก่อนได้ จะช่วยระบายความร้อนได้ในระดับหนึ่ง การปล่อยให้เครื่องร้อนบ่อยๆ โดยการวางบนตัก, ที่นอน, พื้นโต๊ะ โดยไม่มีอุปกรณ์ใดๆ รองฐานใต้โน๊ตบุ๊ค ส่งผลให้การระบายความร้อนทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร จึงเป็นสาเหตุทำให้แบตเตอรี่เกิดความร้อนสะสมสูง อาจนำไปสู่การเสื่อมของแบตเตอรี่ได้ในที่สุด
2. อายุการใช้งาน
แบตเตอรี่โน๊ตบุ๊ค ถือว่าเป็นชิ้นส่วนสำคัญอันดับต้นๆ หากใช้งานไปสักระยะก็จะเริ่มเสื่อมสภาพไปเรื่อยๆ ตามวันและระยะเวลาของการใช้งาน ซึ่งการใช้งานโดยทั่วไปแบบปกติก็จะอยู่ที่ประมาณ 2-3 ปี และการเสื่อมของแบตจะเร็วขึ้นหรือช้าลงก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของผู้ใช้งานเป็นหลัก
3. ปล่อยให้เครื่องดับ
อีกหนึ่งสาเหตุที่พบว่าเป็นปัจจัยสำคัญทำให้แบตมีอายุสั้นเร็วกว่าที่ควรจะเป็นก็คือ การใช้งานแบตเตอรี่ให้หมดเกลี้ยงจนถึง 0% แล้วปล่อยให้เครื่องดับเองอยู่เป็นประจำ จะบอกว่าการชาร์จที่เริ่มจาก 0% นั้น ต้องใช้แรงดันไฟมากกว่าปกติ ทำให้แบตเตอรี่ร้อน และเสื่อมได้เร็วขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่ดีเอามากๆ เพื่อเป็นการถนอมแบตเวลาทำงานเสร็จก่อนปิดเครื่องควรเหลือเปอร์เซ็นไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
4. ถอดแบตเตอรี่ออกขณะใช้
ปรับความเข้าใจเสียใหม่อย่าเสียเวลาถอดแบตออกแล้วเสียบปลั๊กไฟขณะใช้งาน ถึงแม้ว่าจะไม่มีการใช้งานหรือปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ ก็ตาม แบตเตอรี่นั้นมีอายุการใช้งาน อายุการใช้งานมันนับตั้งแต่การเริ่มผลิต ไม่ได้นับว่าคุณจะใช้งานตอนไหนเมื่อไหร่ ยังไงก็เสื่อมไปตามกาลเวลาอยู่ดี เพราะไม่มีการอัดประจุใหม่และคลายประจุเก่า การถอดเก็บไว้กลับจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วกว่าที่ควรจะเป็น เชื่อเถอะว่าเอาออกมาใช้งานจะดีที่สุด ใช้จนมันเสื่อมตามอายุไขของมันไป ดีกว่าปล่อยให้มันเสื่อมโดยไม่ได้ใช้งานอะไรเลย
5. แบตเตอรี่ตกพื้นบ่อยๆ
ความไม่ระมัดระวังโดยการทำแบตเตอรี่ตกพื้นบ่อยๆ อาจจะทำให้สารเคมีในแบตรั่วไหล หรือขั้วแบตอาจจะหลุดออกมาได้ ซึ่งจะส่งผลให้จ่ายไฟไม่นิ่ง และการใช้งานกับโน๊ตบุ๊คตัวเก่งของคุณอาจมีปัญหาได้
สนใจแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คติดต่อเรา JUDSPEC.COM พร้อมให้ข้อมูลสินค้าทุกตัวที่คุณต้องการ
วิธีป้องกัน แบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คเสื่อม
นอกจากสมาร์ทโฟนแล้วดูเหมือนว่า “โน๊ตบุ๊ค” แทบจะเป็นอุปกรณ์ข้างกายของทุกคนไปแล้ว เชื่อว่าทุกคนก็มีวิธีป้องกันแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คที่แตกต่างกันออกไป แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่าวิธีนั้นครอบคลุมทั้งหมด พฤติกรรมการใช้งานแบบผิดๆ เป็นปัจจัยที่ทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่มีอายุสั้นเร็วกว่าเดิม เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องและป้องกันการใช้งานแบบผิดๆ มาทำ 5 วิธีเบื้องต้น ที่จะช่วยให้ยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คของคุณให้ยาวนานยิ่งขึ้นกันเถอะ
สนใจเม้าส์สำหรับเล่นเกมติดต่อเรา JUDSPEC.COM พร้อมให้ข้อมูลสินค้าทุกตัวที่คุณต้องการ
1. ชาร์จไฟขณะใช้งาน
แนะนำว่าเสียบ Adaptor ที่ชาร์ตไฟไว้ด้วยตลอดเวลา เมื่อคุณต้องนั่งทำงานนานๆ โน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันส่วนใหญ่พัฒนาให้มีระบบตัดไฟอัตโนมัติอยู่แล้วเมื่อชาร์จประจุเต็ม ที่สำคัญคือ ห้ามถอดแบตเตอรี่ออกเองโดยเด็ดขาดเพราะการถอดแบตเตอรี่ เข้า-ออก อยู่เป็นประจำและไม่มีความจำเป็นทำให้แบตมีอายุที่สั้นลงได้
2. ระวัง ความร้อน/ความชื้น
อย่าปล่อยให้การชาร์จแบตอยู่ในอุณหภูมิที่ร้อนหรือชื้นเกินไป การชาร์จในอุณหภูมิห้องดีที่สุด หากจำเป็นต้องชาร์จแบตในที่ที่มีอากาศร้อน/มีความชื้นสูง อย่าลืมใช้ตัวช่วยอย่างคูลลิ่งแพด, ฐานรอง หรือ ตั้งพัดลมเป่า ทำอย่างไรก็ได้ให้อากาศบริเวณนั้นถ่ายเท วิธีนี้จะช่วยลดการเกิดความร้อนสะสมในตัวเครื่อง เพียงเท่านี้โน๊ตบุ๊คก็จะยืดเวลาในการใช้งานออกไปได้อีก
3. เคลียร์แบตเตอรี่บ้าง
ควรเคลียร์ประจุแบตเตอรี่จากการใช้งานไปราวๆ 30 ครั้ง (หรือประมาณ 1 เดือน) วิธีการก็คือใช้งานจนหมดให้แบตเหลือ 0% หรือ เกือบหมดมากๆ ประมาณ 5-10% แล้วค่อยปิดเครื่อง หลังจากนั้นเวลาใช้งานก็ทำการชาร์จไปตามปกติ
4. ไม่ใช้ของปลอม
จงหลีกเลี่ยงที่ชาร์จปลอมเพราะอาจจะทำให้จ่ายไฟไม่นิ่งได้ และสิ่งที่หลายคนนั้นมองข้ามไปนั่นก็คือ สายไฟที่เราใช้ชาร์จควรจะเป็นสายที่มีคุณภาพในการนำไฟฟ้าได้ดี ขอเน้นย้ำว่า อุปกรณ์ / ชิ้นส่วนต่างๆ ควรใช้ของแท้เท่านั้น ประสิทธิภาพการใช้งานของแท้ย่อมดีกว่าของปลอม ถึงแม้ว่าของปลอมจะมีราคาที่ถูกและใช้ได้เหมือนกัน แต่ผลเสียในระยะยาวตามมาแน่นอน อย่าเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย เพราะค่าซ่อมต่างๆ หลังจากที่มันพังหรือเสื่อมนั้นต้องบานปลายแน่ๆ
5. ความถูกต้องในการชาร์จ
ขอย้ำ! หากคุณต้องการจะชาร์จไฟ ควรเสียบที่ชาร์จกับปลั๊กไฟก่อน แล้วค่อยเอาหัวชาร์จมาเสียบกับโน๊ตบุ๊คอีกทีเพื่อป้องกันไฟกระชาก และสำหรับคนที่ถอดแบตเตอรี่ออกขณะชาร์จไฟ ยิ่งทำให้ตัวเครื่องมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เพราะถ้าไฟดับหรือถูกระชากอย่างแรง อาจทำให้โน้ตบุ๊คเปิดไม่ติดอีกเลย คราวนี้ล่ะส่งซ่อมยาวของจริง
Last Updated on 1 สัปดาห์