คีย์บอร์ดเกมมิ่ง แนะนำ ยี่ห้อไหนดี 10 Gaming Keyboard ที่ดีที่สุด 2023
กันยายน 24, 2023เก้าอี้เกมมิ่ง แนะนำ ยี่ห้อไหนดี 10 Gaming Chair ที่ดีที่สุด 2023
กันยายน 25, 2023การหาหูฟังเกมมิ่งที่เหมาะสมอาจอาจจะเป็นสิ่งที่ยากสำหรับคนที่ไม่มีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับระบบเสียง และด้วยตัวเลือกมากมาย คุณจะเลือกแบรนด์ที่ดีที่สุดได้อย่างไร คู่มือนี้ระบุ top 10 แบรนด์หูฟังเกมมิ่งที่ดี่ที่สุดในปี 2023 ทําให้การตัดสินใจของคุณง่ายขึ้น สําหรับแต่ละแบรนด์ เราให้รายละเอียดสําคัญ เช่น การเชื่อมต่อ (Connectivity) หูฟังเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้อย่างไร ความถี่ตอบสนอง (Frequency Response) รองรับเสียงต่างๆ ได้ดีแค่ไหน ไฟหลัง (Back Light) มีฟีเจอร์ไฟหรือไม่ ซอฟต์แวร์ (Software) มาพร้อมซอฟต์แวร์พิเศษหรือไม่ และ ระบบเสียง (Sound System) ใช้เทคโนโลยีเสียงประเภทใด แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด! หลังจากคําแนะนําแบรนด์แล้ว เรายังสํารวจหัวข้อสําคัญ เช่น ตัวเลือกการเชื่อมต่อต่างๆ บทบาทของความถี่ในเสียงเกม วัตถุประสงค์ของไฟหลัง และความแตกต่างระหว่างระบบเสียงสเตอริโอกับซัรราวด์ เมื่อจบคู่มือ คุณจะมีความรู้ทั้งหมดที่ต้องการเพื่อเลือกหูฟังที่จะทําให้ประสบการณ์การเล่นเกมของคุณยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง
1. Razer Barracuda Black
หูฟังเกมมิ่ง Razer Barracuda Black เป็นตัวเลือกที่ดีสําหรับนักเล่นเกมและผู้ที่ชื่นชอบความบันเทิง มีราคาประมาณ 5,290 บาท หูฟังรุ่นนี้มีการตอบสนองความถี่ 20 Hz – 20 kHz ซึ่งหมายความว่าสามารถผลิตเสียงที่ส่วนใหญ่ของคนได้ยิน นอกจากนี้ยังมีค่าอิมพีแดนซ์ 32 Ω ซึ่งส่งผลต่อระดับเสียง ตัวขับเสียง RazerTM TriForce Titanium ขนาด 50 มม. สัญญาว่าจะให้เสียงที่ชัดเจนและทรงพลัง หูฟังมีหูชั้นนอกแบบรีและโฟมบรรเทาความกดดันทําให้สวมใส่ได้นานๆ โดยไม่เกิดความไม่สบาย สามารถเชื่อมต่อผ่าน USB Type-C ไร้สาย, Bluetooth 5.2 หรือสายอนาลอก 3.5 มม. ให้เสียงคุณภาพสูง มีตัวเลือกการเชื่อมต่อหลากหลาย และมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่นานถึง 40 ชั่วโมง ข้อเสียเพียงอย่างเดียว คือ ไม่มีไฟสัญญาณใดๆ และมีน้ําหนักประมาณ 300 กรัม โดยรวมแล้วเป็นหูฟังที่หลากหลายรอบด้านและน่าเชื่อถือสําหรับใช้เล่นเกมและความบันเทิง
Main Criteria
- การเชื่อมต่อ : USB Type-C Wireless (2.4GHz), Bluetooth 5.2, 3.5mm Analog
- การตอบสนองความถี่ : 20 Hz – 20 kHz
- Back Light : ไม่มีไฟ
- ซอฟต์แวร์ : มี
- ระบบเสียงจำลอง : 7.1
ข้อดี | ข้อเสีย |
|
|
2. SteelSeries ARCTIS9 Wireless Black
หูฟัง SteelSeries ARCTIS9 Wireless Black เป็นหูฟังที่ยอดเยี่ยมสําหรับนักเล่นเกมและผู้ที่ชื่นชอบฟังเพลง มีการเชื่อมต่อไร้สายทั้ง Bluetooth และ 2.4 GHz ทําให้สามารถใช้งานกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ หูฟังมีไมโครโฟนที่ชัดเจนและเสียงเป็นธรรมชาติสําหรับการพูดคุย และกรองเสียงรบกวนพื้นหลังออก สามารถปรับสมดุลระหว่างเสียงเกมกับเสียงสนทนาได้ง่ายด้วยปุ่มควบคุมบนหู หูฟังมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่นานกว่า 20 ชั่วโมง สมบูรณ์แบบสําหรับการเล่นเกมเป็นเวลานาน นอกจากนี้ยังมีเสียงรอบทิศทางและซอฟต์แวร์เพิ่มเติมเพื่อประสบการณ์การฟังที่ดีขึ้น ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือการขาดไฟ LED และราคาที่สูงกว่า โดยรวมแล้วเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสําหรับผู้ที่ต้องการเสียงคุณภาพสูงและการเชื่อมต่อที่หลากหลาย
Main Criteria
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth, 2.4 GHz wireless
- การตอบสนองความถี่ : 20 Hz – 20 kHz
- Back Light : ไม่มีไฟ
- ซอฟต์แวร์ : มี
- ระบบเสียงจำลอง : 7.1
ข้อดี | ข้อเสีย |
|
|
3. Logitech G 933S Wireless
หูฟังเกมมิ่ง Logitech G 933S Wireless เป็นอุปกรณ์สําหรับเล่นเกมและฟังเพลงคุณภาพสูง มีราคาประมาณ 3,547 บาท ให้คุณสมบัติและข้อมูลทางเทคนิคที่น่าประทับใจเพื่อยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมของคุณ ด้วยตัวขับเสียง PRO-G ขนาด 50 มม. คุณจะได้สัมผัสเสียงที่ชัดเจนและมีรายละเอียด เทคโนโลยีเสียงรอบทิศทาง DTS Headphone:X 2.0 Surround Sound ให้ประสบการณ์การฟังที่ไม่เหมือนใคร ช่วยให้คุณระบุตําแหน่งที่มาของเสียงได้อย่างแม่นยํา สามารถปรับแต่งหูฟังได้ผ่านซอฟต์แวร์ Logitech G HUB มีปุ่ม G-KEYS ที่สามารถโปรแกรมคําสั่งในเกมได้ นอกจากนี้ยังสวมใส่สบายและทนทาน มีวัสดุตาข่ายระบายอากาศ และหูชั้นนอกถอดออกล้างได้ หูฟัง Logitech G 933S Wireless เป็นตัวเลือกที่ดีสําหรับทั้งนักเล่นเกมและผู้ที่ชื่นชอบฟังเพลง
Main Criteria
- การเชื่อมต่อ : 2.4 GHz wireless, พอร์ต USB 2.0, ใช้สาย
- การตอบสนองความถี่ : 20 Hz – 20 kHz
- Back Light : มีไฟ
- ซอฟต์แวร์ : มี
- ระบบเสียงจำลอง : 7.1
ข้อดี | ข้อเสีย |
|
|
4. ASUS ROG DELTA S ANIMATE
ASUS ROG DELTA S ANIMATE เป็นหูฟังเกมมิ่งที่มีคุณสมบัติขั้นสูงสําหรับนักเล่นเกมและผู้ที่ชื่นชอบฟังเพลง มีการเชื่อมต่อแบบมีสายด้วยสาย USB-C และมีช่วงการตอบสนองความถี่ 20 Hz – 40 kHz สําหรับเสียงที่ชัดเจน หูฟังรุ่นนี้ยังมีไฟ LED สุดเท่และซอฟต์แวร์ประจําตัว มอบประสบการณ์เสียงรอบทิศทางเสมือน 7.1 ช่องเพื่อการเล่นเกมอย่างมีชีวิตชีวา หูฟังใช้แม่เหล็กนีโอดิเนียมกับตัวขับเสียงขนาด 50 มม. และไมโครโฟนมีคุณสมบัติกรองเสียงรบกวนโดยใช้ AI สามารถเชื่อมต่อใช้งานกับ PC, MAC และ Nintendo Switch ได้ นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งหน้าจอ LED ให้เป็นส่วนตัว มีเสียงคุณภาพสูง และสามารถใช้กับหลายแพลตฟอร์ม อย่างไรก็ตามไม่มีระบบปิดเสียงรบกวนอัตโนมัติ และไม่มีกระเป๋าหรือกล่องสําหรับใส่ โดยรวมแล้วเป็นตัวเลือกที่ดีสําหรับผู้ที่ให้ความสําคัญกับคุณภาพเสียงและการปรับแต่ง
Main Criteria
- การเชื่อมต่อ : USB-C สาย
- การตอบสนองความถี่ : 20 Hz – 40 kHz
- Back Light : มีไฟ
- ซอฟต์แวร์ : มี
- ระบบเสียงจำลอง : 7.1
ข้อดี | ข้อเสีย |
|
|
5. CORSAIR HS70 WIRELESS
CORSAIR HS70 Wireless เป็นหูฟังเกมมิ่งที่ออกแบบมาเฉพาะสําหรับนักเล่นเกม สามารถใช้งานกับ PC และเครื่อง PlayStation 4 ได้ มอบประสบการณ์การฟังเสียงที่น่าอัศจรรย์ใจ มีคุณสมบัติหลากหลาย เช่น สามารถใช้งานกับ PC และ PS4, มีการตอบสนองความถี่ 20Hz ถึง 20kHz สําหรับเสียงโทนต่ําและสูงที่ชัดเจน, ตัวขับเสียงแม่เหล็กนีโอดิเนียมขนาด 50มม. สําหรับคุณภาพเสียงยอดเยี่ยม, และเทคโนโลยีเสียงรอบทิศทางเสมือน 7.1 ช่อง สําหรับประสบการณ์การเล่นเกมอย่างมีชีวิตชีวา หูฟังรุ่นนี้เป็นแบบไร้สาย มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 16 ชั่วโมง และรัศมีการเชื่อมต่อไร้สายสูงสุด 40 ฟุต มีไมโครโฟนปิดเสียงรบกวนแบบถอดได้ และทําจากวัสดุทนทานสําหรับการใช้งานในระยะยาว สวมใส่สบายด้วยหูชั้นนอกโฟมนุ่มและปรับความกว้างได้ มีปุ่มควบคุมบนหูฟังเพื่อปรับระดับเสียงและปิดไมโครโฟนได้ง่าย สามารถเพิ่มประสิทธิภาพด้วยซอฟต์แวร์ iCUE CORSAIR HS70 Wireless เป็นตัวเลือกที่ดีสําหรับนักเล่นเกมที่ต้องการเสียงคุณภาพสูง การเชื่อมต่อไร้สาย และความสบายในการใช้งาน
Main Criteria
- การเชื่อมต่อ : 2.4 GHz wireless
- การตอบสนองความถี่ : 20 Hz – 20 kHz
- Back Light : ไม่มีไฟ
- ซอฟต์แวร์ : มี
- ระบบเสียงจำลอง : 7.1
ข้อดี | ข้อเสีย |
|
|
6. HyperX Cloud MIX Bluetooth
HyperX Cloud MIX Bluetooth เป็นหูฟังเกมมิ่งที่สามารถใช้งานทั้งแบบมีสายและไร้สายได้ มีระบบเสียงรอบทิศทาง 7.1 ช่อง และทํางานในช่วงการตอบสนองความถี่ 15 Hz – 20 kHz หูฟังมาพร้อมซอฟต์แวร์ของตัวเองและไมโครโฟนบูมถอดได้ ราคาประมาณ 3,290 บาท และมีการรับประกัน 2 ปี หูฟังรุ่นนี้มีเทคโนโลยี Bluetooth ไร้สายและมีปุ่มควบคุมง่ายๆ สวมใส่สบายสําหรับการเล่นเกมเป็นเวลานาน และได้รับการรับรองมาตรฐาน Hi-Res Audio โดยรวม HyperX Cloud MIX Bluetooth เป็นหูฟังเกมมิ่งที่มีความสามารถหลากหลายและมีคุณภาพสูง คุ้มค่าต่อการพิจารณา
Main Criteria
- การเชื่อมต่อ : Wired 3.5mm (4 pole CTIA), Bluetooth wireless
- การตอบสนองความถี่ : 15 Hz – 20 kHz
- Back Light : ไม่มีไฟ
- ซอฟต์แวร์ : มี
- ระบบเสียงจำลอง : 7.1
ข้อดี | ข้อเสีย |
|
|
7. JBL Quantum 910 Wireless
หูฟัง JBL Quantum 910 Wireless เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสําหรับนักเล่นเกมทุกระดับ ด้วยการเชื่อมต่อ Bluetooth และไร้สาย คุณสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ง่าย การตอบสนองความถี่ 20 Hz ถึง 40 kHz ของหูฟังรับประกันคุณภาพเสียงระดับสูง ยังมีฟีเจอร์ไฟพื้นหลังสุดเท่เพิ่มสไตล์ให้กับการตั้งค่าเกมมิ่งของคุณ ซอฟต์แวร์ที่มีมาด้วยยกระดับประสบการณ์การเล่นเกม และเทคโนโลยีเสียงรอบทิศทาง 7.1 ช่อง ทําให้คุณรู้สึกเสมือนอยู่ในเกม ด้วยการออกแบบที่ทนทานและสวมใส่สบาย หูฟังรุ่นนี้สมบูรณ์แบบสําหรับการเล่นเกมเป็นเวลานาน อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานประมาณ 39 ชั่วโมง หมายความว่าคุณไม่ต้องกังวลเรื่องพลังงานหมด สามารถใช้กับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ ทําให้มีความสามารถหลากหลายสําหรับนักเล่นเกมทุกคน โดยรวม JBL Quantum 910 Wireless มอบคุณภาพเสียงที่เหนือชั้น การปิดเสียงรบกวน และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่น่าประทับใจ ทําให้เป็นตัวเลือกที่ดีสําหรับนักเล่นเกม
Main Criteria
- การเชื่อมต่อ : บลูทูธ, 2.4 GHz wireless
- การตอบสนองความถี่ : 20 Hz – 40 kHz
- Back Light : มีไฟ
- ซอฟต์แวร์ : มี
- ระบบเสียงจำลอง : 7.1
ข้อดี | ข้อเสีย |
|
|
8. EPOS H3 Hybrid Wired Digital
มาดูข้อมูลเกี่ยวกับ EPOS H3 Hybrid Wired Digital gaming headset เฮดเซตเกมมิ่งสําหรับเกมเมอร์และคนที่ชอบเสียงคุณภาพสูงระดับพรีเมี่ยม ราคาประมาณ 5,990.00 บาท เฮดเซตรองรับการเชื่อมต่อหลายช่องทาง เช่น USB, Bluetooth และสาย console มีเทคโนโลยีเสียง EPOS Audio Technology ให้เสียงคุณภาพดีเยี่ยม และรองรับ 7.1 surround sound ออกแบบเอนกประสงค์สามารถใช้กับ PC, Mac, PS4, PS5, Xbox, Nintendo Switch และอุปกรณ์บลูทูธ (4) ออกแบบเน้นความสบายในการใช้งานและปรับแต่งให้เหมาะสมได้ รับประกัน 2 ปี โดยรวมแล้วเป็นเฮดเซตคุณภาพสูงที่เหมาะสําหรับเกมเมอร์และคนที่ชื่นชอบเสียงคุณภาพดี
Main Criteria
- การเชื่อมต่อ : USBCable, Bluetooth, มีสายมาให้
- การตอบสนองความถี่ : 20 Hz – 20 kHz
- Back Light : ไม่มีไฟ
- ซอฟต์แวร์ : มี
- ระบบเสียงจำลอง : 7.1
ข้อดี | ข้อเสีย |
|
|
9. Redragon H510 Zeus-X RGB Wired
มาดูข้อมูลเกี่ยวกับ Redragon H510 Zeus-X RGB Wired Gaming Headset หูฟังเกมมิ่งสายสําหรับเกมเมอร์และคนที่ชอบมัลติมีเดีย ให้เสียงชัดเจนและโดดเด่นด้วยเทคโนโลยี 7.1 รอบทิศทาง และลําโพงขนาด 53 มม. สวมใส่สบายเป็นเวลานานได้จากหูฟังที่บุด้วยฟองน้ําหนัก ดีไซน์สวยงามพร้อมไฟ RGB ใต้แป้นพิมพ์ ใช้งานง่ายด้วยปุ่มควบคุมเสียง ปิดไมค์ และโหมด RGB แยกจากกัน รองรับการใช้งานกับ PC, Mac, PS4 และ NS ราคาประมาณ 1,950 บาท เป็นทางเลือกที่ดีสําหรับเกมเมอร์ด้วยคุณสมบัติและราคาที่เหมาะสม
Main Criteria
- การเชื่อมต่อ : มีสาย
- การตอบสนองความถี่ : 20 Hz – 20 kHz
- Back Light : มีไฟ
- ซอฟต์แวร์ : ไม่มี
- ระบบเสียงจำลอง : 7.1
ข้อดี | ข้อเสีย |
|
|
10. Beyerdynamic MMX 150 USB
มาดูข้อมูลเกี่ยวกับ beyerdynamic MMX 150 USB Gaming Headset หูฟังเกมมิ่งคุณภาพสูงที่ให้ประสบการณ์เสียงที่น่าตื่นเต้น ราคาแข่งขันได้ที่ประมาณ 6,990 บาท หูฟังรองรับการเชื่อมต่อทั้ง AUX และ USB-A มีช่วงความถี่ตอบสนอง 5 Hz ถึง 30 kHz ไม่มีไฟระย้าและไม่ต้องใช้ซอฟต์แวร์เพิ่มเติม ระบบเสียงสเตอริโอ ให้เสียงเป็นมืออาชีพด้วยไดรเวอร์ที่ปรับแต่งเฉพาะ ไมโครโฟนกรองเสียงรบกวน ปุ่มควบคุมที่ใช้งานง่าย และสวมใส่สบายสําหรับเล่นเกมได้นาน รองรับ PC, XBOX, PS4, PS5 และ SWITCH แนะนําสําหรับเกมเมอร์ที่เน้นคุณภาพเสียงและการสื่อสารเป็นหลัก
Main Criteria
- การเชื่อมต่อ : AUX (3.5mm), USB-A
- การตอบสนองความถี่ : 5 Hz – 30 kHz
- Back Light : ไม่มีไฟ
- ซอฟต์แวร์ : ไม่มี
- ระบบเสียงจำลอง : สตูดิโอ
ข้อดี | ข้อเสีย |
|
|
เมื่อเลือกซื้อหูฟังเกมมิ่ง วิธีการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของคุณนั้นมีความสําคัญอย่างมาก การเชื่อมต่อ (Connectivity) ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเล่นเกม ความสะดวกสบาย และอื่นๆ ในหัวข้อนี้ เราจะมาดูข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเชื่อมต่อต่างๆ เพื่อช่วยให้คุณเลือกได้อย่างมีข้อมูล
ตัวเลือกการเชื่อมต่อในหูฟังเกมมิ่ง
ประเภท | ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|---|
สาย | – เชื่อมต่อมั่นคง: ไม่หลุดบ่อย – ไม่ต้องแบตเตอรี่: ไม่ต้องชาร์จ |
– จํากัดการเคลื่อนไหว – สายพันกัน: มีสายเพิ่ม |
ไร้สาย | – เคลื่อนไหวได้อิสระ – ดูเรียบร้อย: สายน้อยลง |
– อายุแบตเตอรี่: ต้องชาร์จ – อาจมีสัญญาณรบกวน: อุปกรณ์อื่นอาจรบกวน |
บลูทูธ | – ยืดหยุ่น: เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ – จับคู่ง่าย: ตั้งค่าได้สะดวก |
ในบางกรณี อาจมีปัญหาความหน่วงของสัญญาณ |
พูดถึงเรื่องความหน่วงของสัญญาณ เรามาดูรายละเอียดกัน:
ปัญหาความหน่วงของสัญญาณตามประเภทการเชื่อมต่อ
การเชื่อมต่อ | รายละเอียด |
---|---|
สาย | แทบไม่มีความหน่วง เนื่องจากเชื่อมต่อโดยตรง |
ไร้สาย | บางรุ่นอาจมีความหน่วงเล็กน้อย แต่ปัจจุบันหลายรุ่นดีมากแล้ว |
บลูทูธ | ระวัง! บางการเชื่อมต่อบลูทูธอาจมีความหน่วง ซึ่งไม่เหมาะกับเกมเร็วๆ |
การเข้าใจรายละเอียดเหล่านี้ สามารถช่วยให้คุณเลือกหูฟังที่ตรงกับความต้องการการเล่นเกมของคุณได้
นักเล่นเกมทุกคนต้องการประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุด ปัจจัยสําคัญที่อาจไม่ได้อยู่ในลําดับต้นๆ ของคุณก็คือ ความถี่ตอบสนอง (Frequency Response) ของเสียงเกม มาไปดูข้อมูลเกี่ยวกับมุมมองที่สําคัญนี้กัน
ความถี่ตอบสนองคืออะไร
- ความถี่ตอบสนอง บอกช่วงเสียงตั้งแต่ต่ําไปจนถึงสูง ที่อุปกรณ์สามารถสร้างเสียงออกมาได้
- ลองนึกในแง่นี้ดู มันคือวิธีที่หูฟังจะ ‘แสดง’ ให้คุณได้ยินระดับเสียงต่างๆ ตั้งแต่เสียงต่ํากึกก้องไปจนถึงเสียงสูงแหลมคม
ผลกระทบต่อการเล่นเกม
- เบส (ความถี่ต่ํา): เสียงลึกๆ เช่น ระเบิดหรือฟ้าร้อง
- ความถี่กลาง: การสนทนา และเสียงการกระทําหลักๆ ในเกม
- เทรเบิล (ความถี่สูง): เสียงสูง เช่น นกร้อง หรือแก้วแตก
เหตุใดเรื่องนี้จึงมีความสําคัญ ช่วงเสียงแต่ละช่วงเพิ่มมิติและความเป็นจริงให้กับเกม จินตนาการเล่นเกมโดยไม่ได้ยินเสียงระเบิดห่างออกไป หรือไม่ได้ยินเสียงศัตรูเข้ามาใกล้!
ช่วงความถี่ที่เหมาะสมสําหรับนักเล่นเกม
ช่วงเสียง | ความถี่ (Hz) | เหตุผลที่สําคัญ |
---|---|---|
เบส | 20 – 250 | รู้สึกถึงเอฟเฟกต์ลึกๆ เช่น ระเบิด ทําให้เกมรู้สึกมีชีวิตชีวา |
กลาง | 250 – 2000 | ได้ยินเสียงการกระทําและการสนทนาในเกมอย่างชัดเจน |
เทรเบิล | 2000 – 20,000 | จับรายละเอียดเล็กๆ เช่น เสียงฝีเท้าแอบเข้ามาใกล้ |
การเข้าใจความถี่ตอบสนองช่วยให้คุณเลือกหูฟังที่มอบประสบการณ์เสียงเกมที่ดีที่สุดได้ ดังนั้นครั้งหน้าเมื่อคุณออกตามหาหูฟังเกมมิ่ง ให้นึกถึงประเด็นเหล่านี้เพื่อประสบการณ์การเล่นเกมที่สมจริงและตื่นเต้นมากขึ้น
ไปดูข้อมูลเกี่ยวกับฟีเจอร์ backlight ของหูฟังเกมมิ่ง
เมื่อเลือกซื้อหูฟังเกมมิ่ง คุณอาจสังเกตเห็นว่าบางรุ่นมีไฟสีสันสวยงาม นี่เรียกว่าฟีเจอร์ backlight บางคนอาจคิดว่าเป็นเพียงเพื่อการแสดง แต่จริงๆ แล้วมีประโยชน์มากกว่านั้น มาไปดูข้อมูลเกี่ยวกับว่าไฟเหล่านี้ทําอะไร และเป็นส่วนหนึ่งที่ทําให้หูฟังเกมมิ่งกลายเป็นไอเทมเจ๋งๆ
- ดีไซน์กับฟังก์ชัน:
- ดีไซน์: เป็นเรื่องของลุคหรือรูปลักษณ์ของหูฟัง นักเล่นเกมหลายคนชอบให้อุปกรณ์เกมมิ่งมีสไตล์เฉพาะ ดังนั้นแพทเทิร์นไฟที่สวยงามจึงทําให้หูฟังดูโดดเด่นและมองดูสะดุดตา
- ฟังก์ชัน: ไฟบางประเภทอาจให้ข้อมูล เช่น แสดงเมื่อแบตเตอรี่ต่ําหรือเมื่อปิดเสียงไมค์
- สีและแพทเทิร์นที่นิยม:
- นักเล่นเกมแต่ละคนมีสีและสไตล์ที่ชอบแตกต่างกัน แต่ก็มีบางสีที่เป็นที่นิยมโดยทั่วไป มาไปดูข้อมูลเกี่ยวกับว่ามีอะไรบ้างในตารางด้านล่าง
สี | ความหมายหรือการใช้งาน |
---|---|
แดง | แสดงพลังงาน ใช้กับสไตล์การเล่นเกมแบบรุก |
น้ําเงิน | เย็นสบาย ผ่อนคลาย |
เขียว | นิยมสําหรับเกมธรรมชาติ |
รุ้ง | เปลี่ยนสีอย่างต่อเนื่อง ดูสวยงาม |
กระพริบ | ไฟสว่างมืดสลับกัน |
- การใช้พลังงาน:
- ถ้าคุณใช้หูฟังไร้สาย จะรู้ว่ามันใช้แบตเตอรี่ สิ่งที่ใช้แบตเตอรี่ เช่น backlight จะส่งผลต่ออายุการใช้งาน
- ไฟน้อย = ใช้แบตได้นาน: ถ้าหูฟังของคุณสว่างจ้าตลอด แบตอาจหมดเร็วขึ้น
- ไฟมาก = ใช้แบตได้น้อยลง: ถ้าปิดหรือลดแสงลง หูฟังอาจใช้ได้นานขึ้นก่อนต้องชาร์จ
การเลือกหูฟังเกมมิ่งที่มีฟีเจอร์ backlight สามารถสร้างความสนุกได้ อย่าลืมคิดถึงว่าต้องการให้มันดูอย่างไร และอยากให้แบตใช้ได้นานแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อสไตล์หรือฟังก์ชัน backlight ก็เพิ่มความพิเศษให้กับการเล่นเกม!
ระบบเสียงสเตอริโอเทียบกับซัรราวด์
เมื่อคุณเล่นเกมหรือดูหนัง เสียงคือส่วนสําคัญของประสบการณ์ ลองจินตนาการว่าถ้าไม่มีเสียงที่ดีจะเป็นอย่างไร! ดังนั้นเมื่อพูดถึงหูฟังเกมมิ่ง สิ่งสําคัญคือการเข้าใจประเภทของเสียงที่มันสามารถสร้างได้ ซึ่งได้แก่ ‘stereo’ หรือ ‘surround’ ต่างๆ มาไปดูข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดกัน!
- ความแตกต่างพื้นฐาน:
- stereo: มี 2 ช่อง เสียงจะมาจากซ้ายหรือขวา เหมือนสวมหูฟังธรรมดาแล้วได้ยินเสียงจังหวะทางด้านหนึ่ง และเสียงร้องอีกด้าน
- surround: มีช่องมากกว่า ทําให้รู้สึกเหมือนเสียงมาจากรอบตัว ไม่ใช่แค่ซ้ายขวา เหมือนอยู่ในโรงหนัง
- เสียง 3D และการเล่นเกมแบบมีส่วนร่วม:
- stereo ก็ดี แต่จินตนาการว่าถ้าคุณได้ยินเสียงศัตรูแอบเข้ามาข้างหลังในเกม! ตรงนี้คือจุดที่ surround เข้ามาช่วย มันช่วยให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในเกม
- เมื่อไหร่ควรเลือกอันไหน:
- stereo: ดีสําหรับฟังเพลง หรือถ้างบประมาณจํากัด มันธรรมดาแต่ใช้ได้ดี
- surround: สมบูรณ์แบบสําหรับนักเล่นเกมที่ต้องการประสบการณ์ที่ดีที่สุด ถ้าคุณชอบดูหนัง มันจะทําให้หนังรู้สึกเหมือนจริง!
ต่อไปนี้เป็นตารางอธิบายประเภทต่างๆ ของ surround:
ระบบเสียง | ช่อง | การจัดวาง | เหมาะสําหรับ |
---|---|---|---|
stereo | 2 | ซ้าย และ ขวา | เพลง, เกมพื้นฐาน |
5.1 | 6 | หน้าซ้าย กลาง หน้าขวา หลังซ้าย หลังขวา และ ซับวูฟเฟอร์ | หนัง การเล่นเกม surround |
7.1 | 8 | หน้าซ้าย กลาง หน้าขวา ข้างซ้าย ข้างขวา หลังซ้าย หลังขวา และ ซับวูฟเฟอร์ | เกมมีส่วนร่วม ห้องโฮมเธียเตอร์ระดับสูง |
9.1 | 10 | หน้าซ้าย กลาง หน้าขวา ข้างซ้าย ข้างขวา หลังซ้าย หลังขวา บน ล่าง และ ซับวูฟเฟอร์ | ห้องโฮมเธียเตอร์ขั้นสูง ประสบการณ์เสียง 3D |
11.1 | 12 | หน้าซ้าย กลาง หน้าขวา ข้างซ้าย ข้างขวา หลังซ้าย หลังขวา บนหน้า บนหลัง ล่าง และ ซับวูฟเฟอร์ | ห้องโฮมเธียเตอร์พรีเมียม เสียง 3D สุดยอด |
ดังนั้นครั้งหน้าเมื่อคุณเลือกซื้อหูฟังเกมมิ่งหรือตั้งค่าระบบเสียงสําหรับหนัง ลองคิดถึงว่าต้องการประสบการณ์เสียงแบบไหน ทั้ง stereo หรือ surround เสียงที่ดีสามารถทําให้ทุกอย่างดีขึ้น!
มาดูข้อมูลเกี่ยวกับ Top 10 Headset Gaming เราได้ยกตัวอย่างคุณสมบัติเด่นของแต่ละแบรนด์ เช่น การเชื่อมต่อ (Connectivity) และระบบเสียง (Sound System) เรายังได้วิเคราะห์รายละเอียดต่างๆ เช่น ความถี่ตอบสนอง (Frequency Response) ซึ่งบอกว่าหูฟังสามารถทําเสียงออกมาได้ดีแค่ไหน และคุณสมบัติเสริมอย่าง backlight และซอฟต์แวร์ (Software) ที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกม เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะมีความรู้อย่างครบถ้วน เรายังได้พูดถึงหัวข้อสําคัญๆ อย่าง วิธีการเชื่อมต่อหูฟังกับอุปกรณ์ ความเข้าใจในช่วงเสียงลึกและกว้างของเกม ความสนุกจากแสงสว่างหลัง และคําถามใหญ่เรื่องเสียง stereo กับ surround ด้วยข้อมูลทั้งหมดนี้ คุณพร้อมที่จะตัดสินใจอย่างมีข้อมูล และยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมให้สูงขึ้น
Last Updated on 2 เดือน