จอคอมเล่นเกม 10 อันดับ ยี่ห้อไหนดี ที่ดีที่สุดในปี 2019
มิถุนายน 17, 2019การใช้เมาส์หรือคีย์บอร์ดราคาหลักร้อยกับพีซีราคาเกือบแสนบาท มันคงจะไม่เข้าท่าเลยใช่มั้ยล่ะ? ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้มีผู้ผลิตจำนวนมาก อย่างเช่น Asus, Logitech, Razer, Corsair และบริษัทคู่ค้าอื่น ๆ ได้ยกระดับการเล่นเกมของพวกเขาและนำอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ดีที่สุดของเกมมิ่งออกมาในตลาด
ซึ่งหัวข้อที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้ นั่นก็คือ ‘เมาส์เกมมิ่งที่ดีที่สุดในปี 2019’ (ดูเมาส์เกมมิ่งที่ดีที่สุดปีล่าสุด คลิกที่นี่ เม้าส์เกมมิ่งยี่ห้อไหนดี)ซึ่งคุณควรจะรู้ว่า เมาส์ที่ใช้สำหรับ “การเล่นเกม” และเมาส์แบบมาตรฐานทั่วไป มีรูปแบบการใช้งานที่คล้ายคลึงกัน แต่กลไกในเมาส์สำหรับเล่นเกมนั้นจะดีกว่า เนื่องจาก เมาส์ที่ใช้สำหรับการเล่นเกมนั้นจะสามารถปรับค่า DPI ได้อย่างละเอียด และจะมีปุ่มเสริมเพิ่มขึ้นมาจากแบบเดิม ตอนนี้เราก็ได้รู้จักกับเมาส์เกมมิ่งแบบคร่าว ๆกันไปแล้ว ทีนี้ เรามาดูในหัวข้อที่เราจะพูดถึงกันเถอะ ซึ่งในวันนี้เราได้หยิบยกเมาส์เกมมิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งมีการจัดจำหน่ายอยู่ในตลาดสำหรับผู้บริโภคให้ได้เลือกซื้อกัน
สนใจเม้าส์สำหรับเล่นเกมติดต่อเรา JUDSPEC.COM พร้อมให้ข้อมูลสินค้าทุกตัวที่คุณต้องการ
1. SteelSeries Rival 700 – เมาส์เพียงตัวเดียวที่มีระบบสั่นเตือน
เมาส์เกมมิ่งตัวแรกในลิสต์ของเราก็คือ Steel Series รุ่น Rival 700 และสำหรับผู้ที่ไม่ทราบมาก่อนว่า รุ่น Rival นั้นอาจเป็นหนึ่งในรุ่นที่เป็นที่นิยมมากที่สุดของบริษัท ซึ่งในปัจจุบันนี้อยู่ภายใต้แบรนด์ Steel Series สำหรับแบรนด์ Steel Series นั้น เป็นที่ชื่นชอบในบรรดานักเล่นเกม e-sports มืออาชีพทุกคน และได้รับชื่อเสียงเป็นอย่างมากในกลุ่มของผู้ที่หลงใหลในการเล่นเกม
ก่อนที่เราจะมาเริ่มดูกันว่าเจ้าตัว Steel Series Rival 700 ตัวนี้มันมีดีอย่างไร โดยมันมีบางอย่างที่คุณควรจะรู้เกี่ยวกับเมาส์ตัวนี้ก่อน นั้นก็คือ Rival 700 นั้น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยมีจอแสดงผล OLED ที่สามารถแสดงสิ่งต่าง ๆได้หลากหลายในการตั้งค่า รวมถึงมี GIF บางส่วนที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษสำหรับจอแสดงผลนี้ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บของ Steel Series
เมื่อพูดถึงรายละเอียดทางเทคนิคของ Rival 700 นั้น มันเป็นเมาส์ที่มีการทำงานแบบแยกส่วนโดยมีคุณสมบัติ เช่น มีการออกแบบแบบแยกส่วนได้, การปรับแสง RGB, หน้าจอแสดงผล OLED, ปรับการตั้งค่า DPI ด้วยค่า DPI สูงสุดที่ 16,000 บนเซนเซอร์ชนิดใช้แสง และ 8,000 บนเซ็นเซอร์ชนิดเลเซอร์ และแน่นอนว่าคุณสามารถเปลี่ยนเซ็นเซอร์โดยการซื้อแยกต่างหากได้ แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ที่เมาส์ตัวนี้ไม่ได้มาพร้อมกับการออกแบบสำหรับการใช้งานได้ทั้งสองมือ และมันอาจจะเป็นปัญหาสำหรับผู้ที่ไม่ได้ถนัดมือขวาก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้หมายความว่า Rival 700 นั้นจะเป็นเมาส์ที่ไม่ดี ซึ่งในราคาที่สูงนั้นมันก็เป็นเมาส์ที่ดีที่เหมาะสมสำหรับการเล่นเกมส์ทุกประเภทจริง ๆ ไม่สำคัญว่าคุณจะกำลังเล่นเกมแนว FPS, RPG หรือ MMO เมาส์ตัวนี้ จะเป็นเมาส์ที่ให้บริการคุณได้อย่างดี
ปัญหาอย่างเดียวของเรากับเมาส์ Rival 700 ตัวนี้ คือควรมีการใช้งานสำหรับผู้ที่ถนัดมือซ้ายและชิ้นส่วนที่จำหน่ายแยกควรมีราคาที่ไม่สูงมากเกินไปนัก
จากที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนี้ เรามาดูข้อดีและข้อเสียของเมาส์ Steel Series Rival 700 กัน
ข้อดี |
ข้อเสีย |
-แสง RGB ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม
-มีนวัตกรรมการออกแบบแบบแยกส่วน -หน้าจอ OLED ยังคงเป็นลูกเล่นที่สามารถปรับแต่งได้เต็มรูปแบบ -มีโปรแกรมการแจ้งเตือนอีเว้นท์ในเกมของผู้เล่นด้วยระบบสั่น -ปรับแต่งเมาส์ได้ตามความต้องการของคุณ |
-ไม่มีตัวเลือกการใช้งานสำหรับผู้ที่ถนัดมือซ้าย
-ราคาอาจจะสูงเกินไปสำหรับบางคน -แม้ว่าชิ้นส่วนที่จำหน่ายแยกอาจจะมีประโยชน์ แต่ราคาค่อนข้างสูง |
2. Asus ROG Spatha – เมาส์เกมมิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมสไตล์ MMO
Asus ได้สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนหลังจากประกาศเปิดตัวเมาส์เกมมิ่งที่ชื่อว่า Spatha ถ้าคุณคิดว่าชื่อมันดูดุดัน คุณก็ลองมองที่ตัวเมาส์ดูสิ
แน่นอนว่า Spatha อยู่ในอันดับต้น ๆ ของ Asus ในรุ่น Republic of Gamers ซึ่งคุณควรจะรู้ไว้ว่าเมาส์นี้เป็นเมาส์เกมมิ่งที่มีขนาดใหญ่ แถมยังเต็มไปด้วยความโดดเด่นทางด้านต่าง ๆ, มีปุ่มเพิ่มมากขึ้น และเอฟเฟกต์ RGB ที่ซิงค์กับผลิตภัณฑ์ ROG อื่น ๆ ของคุณได้ อย่างเช่น แผงวงจรหลัก, การ์ดจอ หรือแม้แต่คีย์บอร์ดของ Asus
ก่อนที่เราจะพูดถึงรายละเอียดที่ลึกมากกว่านี้ คุณควรจะรู้ไว้ว่า Spatha เป็นมากกว่าแค่เมาส์เกมมิ่ง จากในมุมของการสร้างเมาส์นี้ขึ้นมา มันถือว่าเป็นเมาส์ที่น่าอัศจรรย์ และ Asus ยังเลือกใช้แมกนีเซียมอัลลอยด์ แทนวัสดุแบบดั้งเดิมที่ใช้ในเมาส์เกมมิ่งอีกด้วย แต่เมาส์นี้ค่อนข้างหนัก เมื่อเทียบกับเมาส์ของคู่แข่งที่มี และราคาก็เหมาะสำหรับนักเล่นเกมตัวยงเลยเท่านั้น
ROG Spatha ตัวนี้มาพร้อมกับปุ่มที่ตั้งโปรแกรมได้มากมาย และคุณสามารถใช้เมาส์ตัวนี้ได้ทั้งแบบไร้สายและแบบมีสาย เมาส์ตัวนี้มาพร้อมกับแสง RGB มีปุ่มที่ตั้งโปรแกรมได้ถึง 12 ปุ่ม ซึ่งสามารถตั้งโปรแกรมได้ตามความต้องการของคุณโดยใช้ซอฟต์แวร์ Asus Armory และคุณยังสามารถปรับค่า DPI ได้สูงสุดถึง 8200 มีหลักกายศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมซึ่งไม้ทำให้ปวดเมื่อย และทำให้สะดวกสบายสำหรับการเล่นเกมเป็นระยะเวลานาน
เราจะไม่บอกว่า ROG Spatha เป็นเมาส์เกมมิ่งที่เพอร์เฟค เพราะมันก็มีข้อบกพร่องบางอย่าง เช่น ปุ่มที่อยู่ด้านข้างรู้สึกว่ามันค่อนข้างบอบบางเกินไป แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้มันมีความสามารถน้อยลง
ดังนั้นแล้ว ไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไป เราไปลองอ่านข้อดีข้อเสียของเมาส์ตัวนี้กันก่อนดีกว่า
ข้อดี |
ข้อเสีย |
-มีการออกแบบที่สวยงาม ทนทาน เหมาะสำหรับนักเล่นเกม
-สามารถปรับแต่งได้อย่างมากมายและง่ายต่อการใช้ – แสง RGB สวยล้ำเลิศไปทั้งตัวเมาส์ -เป็นหนึ่งในเมาส์ที่สะดวกสบายที่สุดในการใช้ -เต็มไปด้วยคุณสมบัติของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ชาญฉลาด |
-เป็นหนึ่งในเมาส์เกมที่มีราคาสูงที่สุดในตลาด
-ปุ่มด้านข้างรู้สึกไม่แข็งแรงเท่าไหร่และแข็งๆเวลากด -มันอาจหนักเกินไป และใหญ่สำหรับผู้ใช้ที่มีมือเล็ก ๆ |
3. Razer Ouroboros – เมาส์เกมมิ่งสำหรับผู้ที่ถนัดทั้งสองมือ
เมาส์ตัวต่อไปในลิสต์ของเราก็คือ Razer Ouroboros คุณอาจไม่ทราบมาก่อนว่า Razer อาจจะเป็นหนึ่งในบริษัทที่จำหน่ายอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ดีที่สุดในตลาด แต่ที่เมาส์ตัวนี้มันอาจจะไม่ได้น่าทึ่งเท่าไหร่เนื่องจากมันมีความเรียบง่ายเกินไป
เมาส์ตัวนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Asus Spatha ก็เป็นได้ แต่นั่นก็นานมาแล้ว เป็นอีกครั้งหนึ่งที่มีการผสมผสานเมาส์แบบไร้สาย และแบบมีสายเข้าไว้ด้วยกัน แต่เมาส์ตัวนี้แตกต่างจาก Spatha โดยมันได้ออกแบบไว้สำหรับใช้งานได้ทั้งสองมือ มันจึงเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของผู้ใช้หลายคน ซึ่งอย่างหนึ่งที่คุณควรจำไว้ว่า เมาส์รุ่น Ouroboros ตัวนี้ ผลิตขึ้นมาสำหรับผู้ที่ชื่นชอบจริง ๆ เพราะมันไม่มีคุณสมบัติที่โดดเด่นมาก อย่างเช่น แสง RGB ถึงแม้ว่ามันอาจจะเป็นเมาส์รุ่นเก่า แต่ Razer น่าจะมีการเปิดตัวโดยการอัปเดต เวอร์ชั่นด้วยแสงสี Chroma ในอนาคตอันใกล้นี้
คุณอาจสงสัยในข้อดีของเมาส์ตัวนี้ ซึ่งก็มีอยู่มากพอสมควร Razer ได้ออกแบบเมาส์นี้และคำนึงถึงการปรับเปลี่ยนส่วนใหญ่ของเมาส์ที่สามารถถอดและเปลี่ยนได้ และแน่นอนว่ามันมีการปรับเปลี่ยนน้ำหนักที่คนส่วนใหญ่นั้นชอบ มีการปรับน้ำหนักที่พักฝ่ามือ และเมาส์ตัวนี้มาพร้อมกับปุ่มที่สามารถตั้งโปรแกรมได้ถึง 11 ปุ่ม รวมถึงมีเซ็นเซอร์คู่ ที่มีความแม่นยำสูง
มันคงเป็นไปไม่ได้ที่เมาส์ตัวนี้จะเพอร์เฟคไปทุกอย่าง จริง ๆแล้วมันก็มีข้อด้อยอยู่บ้าง สำหรับผู้ที่เพิ่งจะเริ่มต้นศึกษาเมาส์เกมมิ่งนั้น เมาส์นี้เป็นเมาส์เกมมิ่งที่มีราคาค่อนข้างแพง นอกจากเรื่องราคาแล้ว สำหรับผู้ที่กำลังมองหาเพียงความเรียบง่าย ธรรมดา ก็อาจะทำให้เกิดความสับสนในการเลือกซื้อได้
ดังนั้น เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาดูข้อดีและข้อดีของเมาส์ตัวนี้กันดีกว่า
ข้อดี |
ข้อเสีย |
-สามารถปรับแต่งได้ด้วยตัวเอง ตั้งแต่ปุ่มไปจนถึงที่วางพักฝ่ามือ
-สามารถใช้ได้ทั้งแบบมีสาย และไร้สาย เมื่อใช้แบบมีสายจะทำให้เมาส์ชาร์จไฟไปในตัว -มีการออกแบบให้ใช้ได้ทั้งสองมือ สำหรับผู้ที่ถนัดซ้ายหรือขวาก็ได้ -มีเซ็นเซอร์คู่ที่ให้ความแม่นยำสูงสุด ให้การเล่นเกมเข้มข้นมากที่สุด -เป็นสุดยอดแนวคิด และมีการบริหารจัดการที่โดดเด่น -มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่ต่อเนื่อง -ไม่มีการล่าช้าของอินพุทแน่นอน เมื่อใช้เมาส์แบบไร้สาย – มีซอฟต์แวร์ Razer Synapse 2.0 ที่จะมอบประสบการณ์ความสนุกให้คุณ |
-ราคาค่อนข้างสูงสำหรับเมาส์เกมมิ่ง
-อาจจะมีความซับซ้อนเล็กน้อย ในการเรียนรู้การใช้งาน |
4. Logitech G900 Chaos Spectrum – เมาส์ไร้สายที่ดีที่สุดสำหรับเกมมิ่ง
เมาส์ตัวนี้มันเป็นเมาส์ที่ไม่ค่อยน่าทึ่งสักเท่าไหร่ แต่อุปกรณ์ต่อพ่วงอาจจะไม่เสร็จสมบูรณ์หากไม่รวมอุปกรณ์ต่อพ่วงจาก Logitech เข้าไว้ด้วย เช่นเดียวกันกับรายการของเมาส์เกมมิ่งของเรานี้ คงไม่จะสมบูรณ์หากไม่มีเมาส์ Logitech G900 Chaos Spectrum ก่อนที่เราจะเริ่มต้นกัน คุณควรทราบก่อนว่าเมาส์นี้ ถือได้ว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Asus Spatha และ Razer Ouroboros เนื่องจากราคาและคุณสมบัติที่คุณจะได้รับจากเมาส์เหล่านี้ ไม่มีเมาส์ตัวไหนที่ถือว่าแย่เลย
แล้ว Chaos Spectrum มันดียังไงล่ะ? ซึ่งมันมีข้อดีเยอะมาก สำหรับผู้เริ่มต้นศึกษาเมาส์เกมมิ่งนั้น คุณสามารถปรับค่า DPI จาก 200 – 12,000 ได้อย่างฉับไวและน่าประทับใจจริง ๆ มันไม่ได้เป็นแค่การเพิ่มซอฟต์แวร์ลงไป ค่า DPI นั้นได้เปลี่ยนไปอย่างมีประสิทธิภาพทั่วทั้งบอร์ด อีกทั้งคุณจะได้รับแสงสเปกตรัม ซึ่งมันเป็นแสง RGB ในรุ่นของ Logitech และสุดท้ายนี้คุณจะได้รับชุดซอฟต์แวร์ระดับตำนานของ Logitech ที่เป็นที่รู้จักและชื่นชอบมาอย่างยาวนาน โดย Chaos Spectrum ตัวนี้สามารถใช้ได้ทั้งแบบมีสายและแบบไร้สาย เช่นเดียวกับเจ้าตัว Ouroborus ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ทั้งมือข้างซ้ายและขวา
จำไว้ว่าเมาส์ตัวนี้มันเป็นเมาส์เรือธงของ Logitech ดังนั้น หากคุณกังวลเกี่ยวกับการจ่ายเงินในราคาที่ค่อนข้างสูง คุณไม่ต้องกังวลเลย เพราะคุณยังคงได้รับคุณสมบัติที่ดีที่สุดจากเมาส์ตัวนี้ แน่นอนว่าเมาส์ตัวนี้มีราคาสูงและความสวยงามโดยรวมของการออกแบบแบบที่สามารถใช้ได้กับมือทั้งสองข้างอาจจะลดลง แต่ Chaos Spectrum นี้ถือเป็นเมาส์ที่ทรงพลังมากที่สุด และเหนือกว่าเมาส์สำหรับเล่นเกมที่เราเคยใช้ ดังนั้นแล้ว เรามาดูผลสรุปข้อดีข้อเสียกัน
ข้อดี |
ข้อเสีย |
– มีแสงสเปกตรัม RGB ที่สวยงาม
– เป็น Logitech Gaming ที่น่าทึ่งและใช้งานง่าย – สามารถปรับแต่งปุ่มและตั้งโปรแกรมได้อย่างเต็มที่ – มีเซ็นเซอร์ที่ยอดเยี่ยม – มีการออกแบบที่สามารถรองรับการจับเมาส์ทุกรูปแบบ |
– ค่อนข้างแพงสำหรับผู้ใช้ที่มีงบประมาณจำกัด
– การออกแบบ ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบสำหรับทุกคน – มันไม่มีแท่นชาร์จ |
สนใจเม้าส์สำหรับเล่นเกมติดต่อเรา JUDSPEC.COM พร้อมให้ข้อมูลสินค้าทุกตัวที่คุณต้องการ
5. Corsair M65 Pro RGB – เหมาะสำหรับการเล่นเกมแนว FPS ที่สุด (ค่า DPI สูงสุดถึง 12000)
Corsair ได้เข้ามาสู่อุตสาหกรรมอุปกรณ์ต่อพ่วงสำหรับการเล่นเกมจนถึงกับต้องเหลียวหลังมองกันค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะว่าทุกคนได้เจอสิ่งใหม่ ๆ ที่ทางผู้ผลิตนั้นได้คิดค้นมาเพื่อให้แตกต่างออกไปจากแบบเดิม ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ การเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้ก็ได้ประสบความสำเร็จ
Corsair อาจจะเป็นเมาส์ที่ไม่ได้ผลิตออกมาในงบประมาณสำหรับนักเล่นเกมระดับไฮ-เอนด์ แต่ก็ผลิตออกมาเพื่อให้มั่นใจว่าคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ของเขาเหมาะสมกับราคาที่คุณได้จ่ายไป นั่นหมายความว่า ไม่ว่าคุณจะซื้อรุ่นกลาง ๆ แบบ K70 หรือรุ่นที่มาแรงแบบ K95 คุณจะไม่ผิดหวังกับคุณสมบัติของมันเลย เพราะเมาส์ตัวนี้เป็นเมาส์ที่ดีจริง ๆ ซึ่งบริษัทอื่น ๆ ก็ยังไม่สามารถทำตามได้
เมาส์ตัวนี้มาพร้อมกับแสง RGB ที่สามารถควบคุมได้อย่างง่ายดายโดยการปรับแต่งในซอฟต์แวร์ของ Corsair ซึ่งซอฟต์แวร์ชนิดนี้นั้นก็ใช้งานได้ง่ายมาก ๆถึงแม้จะต้องมีการเรียนรู้ แต่มันก็ไม่ได้ยากจนเกินไป และคุณสามารถปรับค่า DPI ได้ตามต้องการ อีกทั้งคุณยังสามารถปรับแต่งเมาส์ให้สามารถควบคุมได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้เหล่าเกมมอร์สไตล์ FPS กำลังมองหาอยู่
ทีนี้ เราก็ทราบกันแล้วว่า เมาส์ M65 Pro เป็นเมาส์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับนักเล่นเกมสไตล์ FPS อย่างไรก็ตาม มันก็เหมาะสำหรับนักเล่นเกมทุกคน ทุกประเภทเช่นกัน ดังนั้นแล้ว มันก็มีข้อดีอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วนั้น เรามาเปรียบเทียบดูข้อดี ข้อเสียของมันกันเลยดีกว่า
ข้อดี |
ข้อเสีย |
– เป็นเมาส์ที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมตั้งแต่สายเคเบิล ไปจนถึงตัวเมาส์
– ราคาและคุณภาพเหมาะสมกัน – มีระบบปรับแต่งการเคลื่อนไหวได้ดีเยี่ยม – ซอฟต์แวร์ CUE ของ Corsair สามารถดัดแปลงได้ และมันเป็นวิธีที่ดี มากในการปรับแต่งเมาส์ของคุณ – มีปุ่มสไนเปอร์ที่ช่วยปรับค่า DPI ได้ทันที ทำให้การใช้งานดียิ่งขึ้น |
– การแบบออกไม่ได้เป็นที่พอใจสำหรับทุกคน |
6. Logitech G502 – เป็นเมาส์ Highest Native DPI
เราได้พูดถึงเมาส์เกมมิ่งจาก Logitech กันไปบ้างแล้ว และครั้งนี้ก็ถึงคิวของเมาส์ G502 Proteus Spectrum กันแล้ว ต้องบอกเลยว่าเมาส์ตัวนี้ เรียกได้ว่าเป็นเมาส์เกมมิ่งแจ้งเกิดของบริษัทเลยก็ว่าได้
หากคุณสงสัยว่า เจ้าเมาส์ Proteus Spectrum ตัวนี้ เป็นเพียงแค่เมาส์ที่อัปเดตเวอร์ชั่น ที่เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของ Logitech Proteus Core หรือเปล่า? ข้อแตกต่างคือ มันมีแสงสีสเปกตรัม โดยมีแสง RGB ในรุ่นนี้ ซึ่งตัว G900 Chaos Spectrum ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อผู้ที่ชื่นชอบในการยิง ส่วนเจ้าตัว Proteus Spectrum ตัวนี้ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อผู้ใช้ที่ไม่ต้องการจ่ายเงินมากนัก แต่ก็ยังคงได้รับคุณสมบัติของเมาส์ทั้งสองตัวนี้รวมกัน
Proteus Spectrum มาในราคาที่พอเหมาะที่สุด ซึ่งในราคาที่พอเหมาะนี้ คุณก็ยังจะได้รับคุณสมบัติต่าง ๆมากมาย รวมถึงสามารถปรับค่า DPI ได้สูงถึง 12000 DPI
พูดถึงเรื่องในทางเทคนิค Logitech ไม่ได้เปลี่ยนแปลงตัว Proteus Spectrum ต่างจากแบบดั้งเดิมมากนัก เพียงแค่เพิ่มแสงสี RGB ลงไปในระบบโดยเป็นไปตามมาตรฐานตามอุตสาหกรรม และผู้คนยังใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงจากบริษัทนี้ อย่างเช่น เมาส์ คีย์บอร์ด และหูฟัง อีกด้วย
หากเราจะบอกคุณว่า Proteus Spectrum นั้นดีเพียงใด มันคงมีหลายสิ่งที่อยากจะบอกเลย สำหรับผู้ที่เพิ่งจะเริ่มต้นศึกษาเรื่องเมาส์เกมมิ่ง เมาส์ตัวนี้มีราคาครึ่งนึงของราคาเมาส์เรือธง นอกจากนั้น เมาส์ยังมีราคาที่คุ้มค่า และมีปุ่มถึง 11 ปุ่ม ที่สามารถตั้งโปรแกรมได้ตามที่คุณต้องการ มีการออกแบบให้สะดวกสบาย และมีการตอบสนองที่ดีเยี่ยม เพื่อเป็นการคลายความกังวลใจ เรามาเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียให้ดูกันเลยดีกว่า
ข้อดี |
ข้อเสีย |
– มีความเคลื่อนไหวที่แม่นยำ และความไวที่ยอดเยี่ยม
– ปรับค่า DPI ได้ตั้งแต่ 200 จนถึง 12000 – มีการออกแบบรูปลักษณ์ที่งดงามและใช้งานได้อย่างดี – มีราคาและคุณภาพที่เหมาะสม – มีปุ่มที่สามารถตั้งโปรแกรมได้อย่างอิสระถึง 11 ปุ่ม |
– เมาส์ตัวนี้ไม่ได้ผลิตออกมาสำหรับผู้ที่ถนัดมือข้างซ้าย |
7. Razer DeathAdder Chroma – สุดยอดเมาส์ราคาประหยัด
ย้อนกลับไปเมื่อค่าย Razer ได้เปิดตัวเมาส์รุ่น DeathAdder เมาส์ตัวนี้ได้เข้าสู่อุตสาหกรรมเกมมิ่งอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นหนึ่งในเมาส์เกมมิ่งที่ดีที่สุดในตลาด แน่นอนว่าราคาของมันไม่ได้สูงมากเกินไปนัก และมันมีทุกอย่างที่เหล่าเกมเมอร์ต้องการ
หลังจากนั้น บริษัทก็ได้เปิดตัวเมาส์ตัวอื่น ๆ ออกมา แต่ผู้คนต่างก็ยังคิดถึงรุ่น DeathAdder อยู่ สุดท้ายแล้ว ทางค่าย Razer จึงได้ตัดสินใจฟังความเห็นของเหล่าแฟนๆ และมาพร้อมกับเมาส์รุ่น Razer DeathAdder Chroma
คุณอาจจะยังไม่รู้ว่า แสงสี RGB กลายมาเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมได้อย่างไร ซึ่ง Razer ได้เป็นผู้นำเทคโนโลยีและคิดค้นระบบไฟส่องสว่างที่เรียกว่า Chroma ซึ่งมันสามารถควบคุมได้ผ่าน Razer Synapse 2.0 ซึ่งเจ้าตัวระบบ Chroma นี้อาจจะเป็นหนึ่งในแสง RGB ที่ดีที่สุดที่เราได้เคยเห็นและใช้มาเป็นระยะเวลายาวนาน
อย่างที่ได้กล่าวไปทั้งหมดนั้น ทุกอย่างในตัว Razer DeathAdder Chroma เป็นสิ่งใหม่ที่มีการปรับปรุงและพัฒนาขึ้นมา ทำให้เป็นหนึ่งในเมาส์เกมมิ่งที่น่าสนใจที่สุดในการเข้าสู่อุตสาหกรรมเกมมิ่ง ในกรณีนี้ คุณอาจสงสัยว่าในงบประมาณของคุณจะได้รับ เซนเซอร์ชนิดใช้แสง ที่สามารถปรับค่า DPI ถึง 10000 ได้มั้ย? คำตอบคือ ได้ คุณสามารถควบคุม DPI ได้มากตามใจชอบ หรือถ้าคุณอยากให้ค่ามันลดลง ก็สามารถปรับได้อย่างง่ายดาย
มาเปรียบเทียบดูข้อดี ข้อเสียกันบ้างดีกว่า
ข้อดี |
ข้อเสีย |
– มีแสงสี Chroma ที่สวย
– Razer Synapse 2.0 ยังคงเป็นหนึ่งในซอฟต์แวร์ที่ดีที่สุด – มีการผลิตที่มีคุณภาพ – สามารถปรับแต่งปุ่มได้ตามความต้องการ |
– นวัตกรรมในแง่ของการออกแบบยังมีน้อย |
8. Corsair Scimitar RGB – มีปุ่มที่ตั้งโปรแกรมได้มากที่สุด
Corsair ได้ตัดสินใจเข้าสู่ตลาดเกมมิ่ง ซึ่งทางบริษัทได้ตัดสินใจเปิดตัวอุปกรณ์ต่อพ่วงเกมที่ดีที่สุดออกมา โดยอย่างที่อาจจะได้รู้กันมาแล้วบ้างว่ารุ่น M65 Pro จะมุ่งเน้นไปทางผู้ที่ชื่นชอบเกมแนว FPS เป็นส่วนใหญ่ ส่วนในรุ่นของ Corsair Scimitar นั้น ทางบริษัทได้พยายามสร้างเมาส์เกมมิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเกมแนว MOBA หรือ MMO โดยเมาส์ตัวนี้นั้นมาพร้อมกับปุ่มที่สามารถตั้งโปรแกรมได้ถึง 17 ปุ่ม ซึ่งมี 12 อยู่ในทางด้านซ้ายของปุ่มเลื่อนของเมาส์ ทำให้สะดวกต่อการใช้งานและยังมีกลไกที่สำคัญอีกด้วย
เมาส์ตัวนี้ มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ที่ดีที่สุดในตลาด ซึ่งได้เลือกใช้เซ็นเซอร์ Pixart ADNS 3988 โดยตัวเซ็นเซอร์นี้ สามารถปรับค่า DPI ได้ถึง 12000 อย่างไรก็ตาม ค่า DPI นี้ สามารถปรับแต่งได้ตามที่คุณต้องการ
ในเมาส์ตัวนี้จะมีแสง RGB ทั้งหมด 4 ส่วน โดยสามารถควบคุมได้จาก Corsair Utility Engine ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่สามารถปรับเมาส์และควบคุมแสงสีได้ ซึ่งประสิทธิภาพของ Corsair มีความสามารถคล้ายคลึงกับ Logitech G502 Proteus Spectrum เมาส์ทั้งสองตัวนี้ได้นำเสนอสิ่งที่แตกต่างและเหมาะสำหรับเกมเมอร์ทุกประเภท แต่ภายใต้การประมวลผลนั้น ประสิทธิภาพของทั้งคู่ก็มีระบบเซ็นเซอร์มาเกี่ยวข้องด้วย
หากคุณเป็นเกมเมอร์ที่ไม่ต้องการปุ่มมาโครจำนวนมากนัก Logitech G502 Proteus Spectrum ก็เป็นตัวเลือกที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นคนที่มือค่อนข้างใหญ่และต้องการปุ่มมาโครเยอะๆ Corsair Scimitar ก็เป็นตัวเลือกที่ชนะ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมาส์ทั้งสองตัวนี้ เป็นเมาส์ที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ เรามาดู ข้อดี ข้อเสียของ Corsair Scimitar กันบ้างดีกว่า
ข้อดี |
ข้อเสีย |
– เซ็นเซอร์ Pixart ให้การติดตามที่ยอดเยี่ยม
– มีปุ่มที่ตั้งโปรแกรมได้ทั้งหมด 17 ปุ่ม เป็นปุ่มสำหรับเกมเมอร์แนว MMO / MOBA – มีแสง RGB 4 ส่วน สามารถเชื่อมโยงกับอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่น ๆ ของ Corsair ได้ – คุณภาพการผลิตสูงสุด |
– เมาส์อาจจะใหญ่เกินไปสำหรับผู้ใช้งานบางคน
– ปุ่มตรงนิ้วหัวแม่มือ ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการใช้ |
9. Razer Naga Hex V2 – เป็นเมาส์อีกตัวที่เหมาะสำหรับเกมแนว MOBA
เมาส์ตัวต่อมาของเราก็คือ Razer Naga Hex V2 ก่อนที่เราจะเริ่มกัน คุณควรรู้ไวว่า เมาส์ตัวนี้อาจเป็นหนึ่งในเมาส์เกมมิ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับเกมแนว MOBA เนื่องจากมันมีตัวเลขบนปุ่มที่คุณสามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ
อย่างไรก็ตาม คุณควรจำไว้ว่าเมาส์ตัวนี้ออกแบบมาเพื่อเหล่าเกมเมอร์แนว MOBA โดยเฉพาะ มันอาจจะไม่เหมาะสำหรับการเล่นเกมแนวอื่น ๆ แต่เมาส์นี้ก็เหมาะสำหรับเกมที่ต้องมีปุ่มคีย์ลัดจำนวนมาก ๆ ซึ่งคุณสามารถตั้งแผนที่ได้ในเมาส์ โดยใช้นิ้วหัวแม่มือได้อย่างสะดวกสบาย
Naga Hex V2 มาพร้อมกับคุณสมบัติดั้งเดิมของเมาส์ ที่คุณคาดหวังว่าจะได้จากเมาส์ Razer ซึ่งคุณจะได้รับเซ็นเซอร์ชนิดใช้แสงที่ยอดเยี่ยม ที่มีความสามารถในการปรับค่า DPI ได้ถึง 16,000 DPI และคุณยังจะได้รับ แสงสี Chroma RGB ที่คุณสามารถควบคุมระบบผ่านทาง Razer Synapse 2.0 และแน่นอนว่าคุณสามารถปรับแต่งปุ่มทั้งหมดที่อยู่บนเมาส์ได้ด้วยตัวเอง มันเป็นข้อได้เปรียบมากสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการมั่นใจว่าจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากเมาส์ตัวนี้
จากที่กล่าวมาเราจะมาดูประโยชน์ของ Razer Naga Hex V2 และ ทำไมมันถึงเป็นเมาส์เกมมิ่งที่ดีสำหรับนักเล่นเกมแนว MOBA
ข้อดี |
ข้อเสีย |
– มีระบบเซ็นเซอร์ออฟติคอลที่มีความไวสูง และมีค่า DPI ถึง 16000
– ปรับแต่งปุ่มได้อย่างเต็มที่ – มีการสร้างตัวเมาส์ที่แข็งแรง – ปุ่มตรงนิ้วหัวแม่มือ มีการใช้งานสลับสับเปลี่ยนที่ง่ายดาย – มีชุดซอฟต์แวร์ Razer Synapse 2.0 ที่ยอดเยี่ยม – มีแสง Razer Chroma ที่ดีมาตลอด |
– การออกแบบอาจดูเหมือนเป็นทางเลือกที่แปลกสำหรับผู้ใช้บางคน
– เมาส์ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับการใช้งานทั้งสองมือ |
10. Corsair Sabre RGB – เมาส์สำหรับเล่นเกมแนว FPS ราคาประหยัด
ผลิตภัณฑ์ตัวสุดท้ายของเราก็มาจาก Corsair อีกเช่นเคย ซึ่งนั้นก็คือรุ่น Corsair Sabre RGB ก่อนที่เราจะเริ่มกัน คุณควรจะรู้ก่อนว่า Corsair Sabre RGB นี้ก็เปรียบเสมือนน้องชายของเจ้า Corsair M65 Pro RGB
ซึ่งเจ้าตัว Sabre RGB แน่นอนว่าเป็นตัวเลือกที่ถูกกว่า มีราคาที่ต่ำกว่า และมีการออกแบบที่แตกต่างออกไปโดยมีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง และแน่นอนว่ามันก็เป็นตัวเลือกที่ดีแน่นอน มันมีราคาที่ถูกว่าและยังสามารถปรับค่า DPI ได้ถึง 10000 การออกแบบของมันก็เปนที่ดึงดูดเหล่าเกมเมอร์ส่วนใหญ่ หากเราไม่ได้เปรียบเทียบในเรื่องของแสง RGB
ในขณะที่เจ้าตัว Sabre RGB อาจจะไม่ชนะเลิศในเรื่องของการประกวดเรื่องความงาม เพราะว่ามันดูเรียบง่ายมาก เมื่อเปรียบเทียบกับเมาส์ตัวอื่น ๆ ที่เราพูดถึงในรายการของเรา แต่มันก็เป็นสิ่งที่ดีแน่นอน เพราะว่ามันได้รับการออกแบบมาโดยคำนึงถึงความเรียบง่ายและการใช้งานที่ดี และคุณต้องรู้ไว้ว่า มันไม่มีระบบในการปรับน้ำหนักของเมาส์ แต่ด้วยราคาและน้ำหนักของเมาส์นั้นทำให้ชัดเจนว่า คุณไม่ต้องปรับน้ำหนักก็สามารถใช้งานได้ดี แต่คุณก็จะยังได้รับการปรับค่า DPI ถึง 10000 และมีแสง RGB เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
เช่นเดียวกับเมาส์เกมมิ่งตัวอื่น ๆ ที่มีข้อดีและข้อเสีย ในส่วนของเมาส์ Corsair Sabre RGB เรามาดูข้อดีและข้อเสียของมันกันเลยดีกว่า
ข้อดี |
ข้อเสีย |
– มีระบบเซ็นเซอร์ DPI ที่ยอดเยี่ยมและเลื่อนใช้งานได้อย่างง่ายดาย
– มีปุ่มที่ตั้งโปรแกรมได้ ให้คุณปรับแต่งเมาส์ตามความต้องการของคุณเองโดยใช้ CUE – มีแสง RGB ที่สามารถปรับได้ด้วย CUE -ในการแข่งขันเรื่องราคา ทำให้ Sabre RGB เป็นต่อเรื่องราคาและประสิทธิที่ยอดเยี่ยม |
– การออกแบบอาจจะไม่สะดวกสบายสำหรับผู้ใช้บางคน |
สรุปแล้ว เมาส์เกมมิ่งที่มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ก็ขึ้นอยู่กับประเภทเกมที่แตกต่างกันออกไป ปัจจุบันนี้มีแบรนด์ใหญ่ ๆ ต่าง ๆมากมายได้คิดค้นเมาส์เกมมิ่งใหม่ๆขึ้นมาทุกวัน โดยบริษัทใหญ่ ๆ ที่มีชื่อเสียงก็อย่างเช่น Logitech, Razer, Mad Catz, CM storm และอีกมากมาย มันก็ดีที่ทำให้เรามีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น แต่มันก็ทำให้เราตัดสินใจเลือกซื้อได้ยากขึ้นเหมือนกัน ดังนั้นแล้วเหล่าเกมเมอร์ควรจะต้องรู้จักสไตล์การเล่นเกมที่ชอบ ก่อนที่จะเลือกซื้อเมาส์ โดยเราหวังว่ารายการเมาส์ทั้ง 10 ตัวนี้ จะช่วยให้คุณได้ตัดสินใจเลือกเมาส์ที่เหมาะกับตัวคุณเอง เพื่อเติมเต็มประสบการณ์เล่นเกมที่ดีเยี่ยมให้กับคุณ
คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับเม้าส์เล่นเกม
เมาส์ธรรมดา กับเมาส์เกมมิ่ง ต่างกันยังไง?
เมาส์ที่ใช้สำหรับ “การเล่นเกม” และเมาส์แบบมาตรฐานทั่วไป มีรูปแบบการใช้งานที่คล้ายคลึงกัน แต่กลไกในเมาส์สำหรับเล่นเกมนั้นจะดีกว่า เนื่องจาก เมาส์ที่ใช้สำหรับการเล่นเกมนั้นจะสามารถปรับค่า DPI ได้อย่างละเอียด และจะมีปุ่มเสริมเพิ่มขึ้นมาจากแบบเดิม
เมาส์เกมมิ่ง สำคัญกับการเล่นเกมอย่างไร ?
เมาส์เกมมิ่ง ออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงที่ออกแบบมาให้มีส่วนเว้าส่วนโค้ง เข้ากับมือของผู้เล่น ้เพื่อทำให้ควบคุมได้ถนัดมากขึ้น รวมถึงความละเอียดของเกมมิ่งเมาส์ (DPI) ที่สูงกว่าเมาส์ทั่วไป ซึ่งจะลดระยะทางในการเลื่อนเมาส์ในแต่ละครั้งให้น้อยลง
เลือกเมาส์ เล่นเกม อย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง?
ผู้เล่นควรตัดสินใจเลือกสไตล์การจับเมาส์ให้เหมาะสมกับตนเองที่สุด เลือกทีจับได้ถนัดมือที่สุด สามารถคลิกปุ่มต่างๆ ได้สะดวก เลือกเมาส์ที่มีปุ่มเสริมเท่าที่จำเป็นต้องใช้เท่านั้น ถ้าใครที่ถนัดการสั่งการผ่านคีย์บอร์ด ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ปุ่มเสริมมากมาย
เมาส์เล่นเกมมีสาย หรือไร้สาย ดีกว่ากัน?
ในปัจจุบันเริ่มมีเมาส์แบบไร้สาย (Wireless Mouse) วางจำหน่ายกันมากขึ้น ซึ่งคุณภาพในการเล่นเกม ไม่ได้มีความแตกต่างจากเมาส์แบบมีสายเท่าไรนัก แต่เมาส์ไร้สาย จะมีราคาที่สูงกว่าในคุณสมบัติที่เท่ากัน จึงอยู่ที่ทุนทรัพย์ของผู้ซื้อ ว่าจะสะดวกแบบไหนมากกว่า
สนใจเม้าส์สำหรับเล่นเกมติดต่อเรา JUDSPEC.COM พร้อมให้ข้อมูลสินค้าทุกตัวที่คุณต้องการ
Last Updated on 1 สัปดาห์