5. Corsair M65 Pro RGB – เหมาะสำหรับการเล่นเกมแนว FPS ที่สุด (ค่า DPI สูงสุดถึง 12000)

Corsair ได้เข้ามาสู่อุตสาหกรรมอุปกรณ์ต่อพ่วงสำหรับการเล่นเกมจนถึงกับต้องเหลียวหลังมองกันค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะว่าทุกคนได้เจอสิ่งใหม่ ๆ ที่ทางผู้ผลิตนั้นได้คิดค้นมาเพื่อให้แตกต่างออกไปจากแบบเดิม ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ การเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้ก็ได้ประสบความสำเร็จ
Corsair อาจจะเป็นเมาส์ที่ไม่ได้ผลิตออกมาในงบประมาณสำหรับนักเล่นเกมระดับไฮ-เอนด์ แต่ก็ผลิตออกมาเพื่อให้มั่นใจว่าคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ของเขาเหมาะสมกับราคาที่คุณได้จ่ายไป นั่นหมายความว่า ไม่ว่าคุณจะซื้อรุ่นกลาง ๆ แบบ K70 หรือรุ่นที่มาแรงแบบ K95 คุณจะไม่ผิดหวังกับคุณสมบัติของมันเลย เพราะเมาส์ตัวนี้เป็นเมาส์ที่ดีจริง ๆ ซึ่งบริษัทอื่น ๆ ก็ยังไม่สามารถทำตามได้
เมาส์ตัวนี้มาพร้อมกับแสง RGB ที่สามารถควบคุมได้อย่างง่ายดายโดยการปรับแต่งในซอฟต์แวร์ของ Corsair ซึ่งซอฟต์แวร์ชนิดนี้นั้นก็ใช้งานได้ง่ายมาก ๆถึงแม้จะต้องมีการเรียนรู้ แต่มันก็ไม่ได้ยากจนเกินไป และคุณสามารถปรับค่า DPI ได้ตามต้องการ อีกทั้งคุณยังสามารถปรับแต่งเมาส์ให้สามารถควบคุมได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้เหล่าเกมมอร์สไตล์ FPS กำลังมองหาอยู่
ทีนี้ เราก็ทราบกันแล้วว่า เมาส์ M65 Pro เป็นเมาส์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับนักเล่นเกมสไตล์ FPS อย่างไรก็ตาม มันก็เหมาะสำหรับนักเล่นเกมทุกคน ทุกประเภทเช่นกัน ดังนั้นแล้ว มันก็มีข้อดีอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วนั้น เรามาเปรียบเทียบดูข้อดี ข้อเสียของมันกันเลยดีกว่า
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
– เป็นเมาส์ที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมตั้งแต่สายเคเบิล ไปจนถึงตัวเมาส์
– ราคาและคุณภาพเหมาะสมกัน
– มีระบบปรับแต่งการเคลื่อนไหวได้ดีเยี่ยม
– ซอฟต์แวร์ CUE ของ Corsair สามารถดัดแปลงได้ และมันเป็นวิธีที่ดี
มากในการปรับแต่งเมาส์ของคุณ
– มีปุ่มสไนเปอร์ที่ช่วยปรับค่า DPI ได้ทันที ทำให้การใช้งานดียิ่งขึ้น |
– การแบบออกไม่ได้เป็นที่พอใจสำหรับทุกคน |
6. Logitech G502 – เป็นเมาส์ Highest Native DPI
เราได้พูดถึงเมาส์เกมมิ่งจาก Logitech กันไปบ้างแล้ว และครั้งนี้ก็ถึงคิวของเมาส์ G502 Proteus Spectrum กันแล้ว ต้องบอกเลยว่าเมาส์ตัวนี้ เรียกได้ว่าเป็นเมาส์เกมมิ่งแจ้งเกิดของบริษัทเลยก็ว่าได้
หากคุณสงสัยว่า เจ้าเมาส์ Proteus Spectrum ตัวนี้ เป็นเพียงแค่เมาส์ที่อัปเดตเวอร์ชั่น ที่เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของ Logitech Proteus Core หรือเปล่า? ข้อแตกต่างคือ มันมีแสงสีสเปกตรัม โดยมีแสง RGB ในรุ่นนี้ ซึ่งตัว G900 Chaos Spectrum ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อผู้ที่ชื่นชอบในการยิง ส่วนเจ้าตัว Proteus Spectrum ตัวนี้ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อผู้ใช้ที่ไม่ต้องการจ่ายเงินมากนัก แต่ก็ยังคงได้รับคุณสมบัติของเมาส์ทั้งสองตัวนี้รวมกัน
Proteus Spectrum มาในราคาที่พอเหมาะที่สุด ซึ่งในราคาที่พอเหมาะนี้ คุณก็ยังจะได้รับคุณสมบัติต่าง ๆมากมาย รวมถึงสามารถปรับค่า DPI ได้สูงถึง 12000 DPI
พูดถึงเรื่องในทางเทคนิค Logitech ไม่ได้เปลี่ยนแปลงตัว Proteus Spectrum ต่างจากแบบดั้งเดิมมากนัก เพียงแค่เพิ่มแสงสี RGB ลงไปในระบบโดยเป็นไปตามมาตรฐานตามอุตสาหกรรม และผู้คนยังใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงจากบริษัทนี้ อย่างเช่น เมาส์ คีย์บอร์ด และหูฟัง อีกด้วย
หากเราจะบอกคุณว่า Proteus Spectrum นั้นดีเพียงใด มันคงมีหลายสิ่งที่อยากจะบอกเลย สำหรับผู้ที่เพิ่งจะเริ่มต้นศึกษาเรื่องเมาส์เกมมิ่ง เมาส์ตัวนี้มีราคาครึ่งนึงของราคาเมาส์เรือธง นอกจากนั้น เมาส์ยังมีราคาที่คุ้มค่า และมีปุ่มถึง 11 ปุ่ม ที่สามารถตั้งโปรแกรมได้ตามที่คุณต้องการ มีการออกแบบให้สะดวกสบาย และมีการตอบสนองที่ดีเยี่ยม เพื่อเป็นการคลายความกังวลใจ เรามาเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียให้ดูกันเลยดีกว่า
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
– มีความเคลื่อนไหวที่แม่นยำ และความไวที่ยอดเยี่ยม
– ปรับค่า DPI ได้ตั้งแต่ 200 จนถึง 12000
– มีการออกแบบรูปลักษณ์ที่งดงามและใช้งานได้อย่างดี
– มีราคาและคุณภาพที่เหมาะสม
– มีปุ่มที่สามารถตั้งโปรแกรมได้อย่างอิสระถึง 11 ปุ่ม |
– เมาส์ตัวนี้ไม่ได้ผลิตออกมาสำหรับผู้ที่ถนัดมือข้างซ้าย |
7. Razer DeathAdder Chroma – สุดยอดเมาส์ราคาประหยัด
ย้อนกลับไปเมื่อค่าย Razer ได้เปิดตัวเมาส์รุ่น DeathAdder เมาส์ตัวนี้ได้เข้าสู่อุตสาหกรรมเกมมิ่งอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นหนึ่งในเมาส์เกมมิ่งที่ดีที่สุดในตลาด แน่นอนว่าราคาของมันไม่ได้สูงมากเกินไปนัก และมันมีทุกอย่างที่เหล่าเกมเมอร์ต้องการ
หลังจากนั้น บริษัทก็ได้เปิดตัวเมาส์ตัวอื่น ๆ ออกมา แต่ผู้คนต่างก็ยังคิดถึงรุ่น DeathAdder อยู่ สุดท้ายแล้ว ทางค่าย Razer จึงได้ตัดสินใจฟังความเห็นของเหล่าแฟนๆ และมาพร้อมกับเมาส์รุ่น Razer DeathAdder Chroma
คุณอาจจะยังไม่รู้ว่า แสงสี RGB กลายมาเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมได้อย่างไร ซึ่ง Razer ได้เป็นผู้นำเทคโนโลยีและคิดค้นระบบไฟส่องสว่างที่เรียกว่า Chroma ซึ่งมันสามารถควบคุมได้ผ่าน Razer Synapse 2.0 ซึ่งเจ้าตัวระบบ Chroma นี้อาจจะเป็นหนึ่งในแสง RGB ที่ดีที่สุดที่เราได้เคยเห็นและใช้มาเป็นระยะเวลายาวนาน
อย่างที่ได้กล่าวไปทั้งหมดนั้น ทุกอย่างในตัว Razer DeathAdder Chroma เป็นสิ่งใหม่ที่มีการปรับปรุงและพัฒนาขึ้นมา ทำให้เป็นหนึ่งในเมาส์เกมมิ่งที่น่าสนใจที่สุดในการเข้าสู่อุตสาหกรรมเกมมิ่ง ในกรณีนี้ คุณอาจสงสัยว่าในงบประมาณของคุณจะได้รับ เซนเซอร์ชนิดใช้แสง ที่สามารถปรับค่า DPI ถึง 10000 ได้มั้ย? คำตอบคือ ได้ คุณสามารถควบคุม DPI ได้มากตามใจชอบ หรือถ้าคุณอยากให้ค่ามันลดลง ก็สามารถปรับได้อย่างง่ายดาย
มาเปรียบเทียบดูข้อดี ข้อเสียกันบ้างดีกว่า
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
– มีแสงสี Chroma ที่สวย
– Razer Synapse 2.0 ยังคงเป็นหนึ่งในซอฟต์แวร์ที่ดีที่สุด
– มีการผลิตที่มีคุณภาพ
– สามารถปรับแต่งปุ่มได้ตามความต้องการ |
– นวัตกรรมในแง่ของการออกแบบยังมีน้อย |
8. Corsair Scimitar RGB – มีปุ่มที่ตั้งโปรแกรมได้มากที่สุด
Corsair ได้ตัดสินใจเข้าสู่ตลาดเกมมิ่ง ซึ่งทางบริษัทได้ตัดสินใจเปิดตัวอุปกรณ์ต่อพ่วงเกมที่ดีที่สุดออกมา โดยอย่างที่อาจจะได้รู้กันมาแล้วบ้างว่ารุ่น M65 Pro จะมุ่งเน้นไปทางผู้ที่ชื่นชอบเกมแนว FPS เป็นส่วนใหญ่ ส่วนในรุ่นของ Corsair Scimitar นั้น ทางบริษัทได้พยายามสร้างเมาส์เกมมิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเกมแนว MOBA หรือ MMO โดยเมาส์ตัวนี้นั้นมาพร้อมกับปุ่มที่สามารถตั้งโปรแกรมได้ถึง 17 ปุ่ม ซึ่งมี 12 อยู่ในทางด้านซ้ายของปุ่มเลื่อนของเมาส์ ทำให้สะดวกต่อการใช้งานและยังมีกลไกที่สำคัญอีกด้วย
เมาส์ตัวนี้ มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ที่ดีที่สุดในตลาด ซึ่งได้เลือกใช้เซ็นเซอร์ Pixart ADNS 3988 โดยตัวเซ็นเซอร์นี้ สามารถปรับค่า DPI ได้ถึง 12000 อย่างไรก็ตาม ค่า DPI นี้ สามารถปรับแต่งได้ตามที่คุณต้องการ
ในเมาส์ตัวนี้จะมีแสง RGB ทั้งหมด 4 ส่วน โดยสามารถควบคุมได้จาก Corsair Utility Engine ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่สามารถปรับเมาส์และควบคุมแสงสีได้ ซึ่งประสิทธิภาพของ Corsair มีความสามารถคล้ายคลึงกับ Logitech G502 Proteus Spectrum เมาส์ทั้งสองตัวนี้ได้นำเสนอสิ่งที่แตกต่างและเหมาะสำหรับเกมเมอร์ทุกประเภท แต่ภายใต้การประมวลผลนั้น ประสิทธิภาพของทั้งคู่ก็มีระบบเซ็นเซอร์มาเกี่ยวข้องด้วย
หากคุณเป็นเกมเมอร์ที่ไม่ต้องการปุ่มมาโครจำนวนมากนัก Logitech G502 Proteus Spectrum ก็เป็นตัวเลือกที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นคนที่มือค่อนข้างใหญ่และต้องการปุ่มมาโครเยอะๆ Corsair Scimitar ก็เป็นตัวเลือกที่ชนะ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมาส์ทั้งสองตัวนี้ เป็นเมาส์ที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ เรามาดู ข้อดี ข้อเสียของ Corsair Scimitar กันบ้างดีกว่า
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
– เซ็นเซอร์ Pixart ให้การติดตามที่ยอดเยี่ยม
– มีปุ่มที่ตั้งโปรแกรมได้ทั้งหมด 17 ปุ่ม เป็นปุ่มสำหรับเกมเมอร์แนว MMO / MOBA
– มีแสง RGB 4 ส่วน สามารถเชื่อมโยงกับอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่น ๆ ของ Corsair ได้
– คุณภาพการผลิตสูงสุด |
– เมาส์อาจจะใหญ่เกินไปสำหรับผู้ใช้งานบางคน
– ปุ่มตรงนิ้วหัวแม่มือ ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการใช้ |
9. Razer Naga Hex V2 – เป็นเมาส์อีกตัวที่เหมาะสำหรับเกมแนว MOBA
เมาส์ตัวต่อมาของเราก็คือ Razer Naga Hex V2 ก่อนที่เราจะเริ่มกัน คุณควรรู้ไวว่า เมาส์ตัวนี้อาจเป็นหนึ่งในเมาส์เกมมิ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับเกมแนว MOBA เนื่องจากมันมีตัวเลขบนปุ่มที่คุณสามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ
อย่างไรก็ตาม คุณควรจำไว้ว่าเมาส์ตัวนี้ออกแบบมาเพื่อเหล่าเกมเมอร์แนว MOBA โดยเฉพาะ มันอาจจะไม่เหมาะสำหรับการเล่นเกมแนวอื่น ๆ แต่เมาส์นี้ก็เหมาะสำหรับเกมที่ต้องมีปุ่มคีย์ลัดจำนวนมาก ๆ ซึ่งคุณสามารถตั้งแผนที่ได้ในเมาส์ โดยใช้นิ้วหัวแม่มือได้อย่างสะดวกสบาย
Naga Hex V2 มาพร้อมกับคุณสมบัติดั้งเดิมของเมาส์ ที่คุณคาดหวังว่าจะได้จากเมาส์ Razer ซึ่งคุณจะได้รับเซ็นเซอร์ชนิดใช้แสงที่ยอดเยี่ยม ที่มีความสามารถในการปรับค่า DPI ได้ถึง 16,000 DPI และคุณยังจะได้รับ แสงสี Chroma RGB ที่คุณสามารถควบคุมระบบผ่านทาง Razer Synapse 2.0 และแน่นอนว่าคุณสามารถปรับแต่งปุ่มทั้งหมดที่อยู่บนเมาส์ได้ด้วยตัวเอง มันเป็นข้อได้เปรียบมากสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการมั่นใจว่าจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากเมาส์ตัวนี้

จากที่กล่าวมาเราจะมาดูประโยชน์ของ Razer Naga Hex V2 และ ทำไมมันถึงเป็นเมาส์เกมมิ่งที่ดีสำหรับนักเล่นเกมแนว MOBA
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
– มีระบบเซ็นเซอร์ออฟติคอลที่มีความไวสูง และมีค่า DPI ถึง 16000
– ปรับแต่งปุ่มได้อย่างเต็มที่
– มีการสร้างตัวเมาส์ที่แข็งแรง
– ปุ่มตรงนิ้วหัวแม่มือ มีการใช้งานสลับสับเปลี่ยนที่ง่ายดาย
– มีชุดซอฟต์แวร์ Razer Synapse 2.0 ที่ยอดเยี่ยม
– มีแสง Razer Chroma ที่ดีมาตลอด |
– การออกแบบอาจดูเหมือนเป็นทางเลือกที่แปลกสำหรับผู้ใช้บางคน
– เมาส์ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับการใช้งานทั้งสองมือ |
10. Corsair Sabre RGB – เมาส์สำหรับเล่นเกมแนว FPS ราคาประหยัด
ผลิตภัณฑ์ตัวสุดท้ายของเราก็มาจาก Corsair อีกเช่นเคย ซึ่งนั้นก็คือรุ่น Corsair Sabre RGB ก่อนที่เราจะเริ่มกัน คุณควรจะรู้ก่อนว่า Corsair Sabre RGB นี้ก็เปรียบเสมือนน้องชายของเจ้า Corsair M65 Pro RGB
ซึ่งเจ้าตัว Sabre RGB แน่นอนว่าเป็นตัวเลือกที่ถูกกว่า มีราคาที่ต่ำกว่า และมีการออกแบบที่แตกต่างออกไปโดยมีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง และแน่นอนว่ามันก็เป็นตัวเลือกที่ดีแน่นอน มันมีราคาที่ถูกว่าและยังสามารถปรับค่า DPI ได้ถึง 10000 การออกแบบของมันก็เปนที่ดึงดูดเหล่าเกมเมอร์ส่วนใหญ่ หากเราไม่ได้เปรียบเทียบในเรื่องของแสง RGB
ในขณะที่เจ้าตัว Sabre RGB อาจจะไม่ชนะเลิศในเรื่องของการประกวดเรื่องความงาม เพราะว่ามันดูเรียบง่ายมาก เมื่อเปรียบเทียบกับเมาส์ตัวอื่น ๆ ที่เราพูดถึงในรายการของเรา แต่มันก็เป็นสิ่งที่ดีแน่นอน เพราะว่ามันได้รับการออกแบบมาโดยคำนึงถึงความเรียบง่ายและการใช้งานที่ดี และคุณต้องรู้ไว้ว่า มันไม่มีระบบในการปรับน้ำหนักของเมาส์ แต่ด้วยราคาและน้ำหนักของเมาส์นั้นทำให้ชัดเจนว่า คุณไม่ต้องปรับน้ำหนักก็สามารถใช้งานได้ดี แต่คุณก็จะยังได้รับการปรับค่า DPI ถึง 10000 และมีแสง RGB เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
เช่นเดียวกับเมาส์เกมมิ่งตัวอื่น ๆ ที่มีข้อดีและข้อเสีย ในส่วนของเมาส์ Corsair Sabre RGB เรามาดูข้อดีและข้อเสียของมันกันเลยดีกว่า
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
– มีระบบเซ็นเซอร์ DPI ที่ยอดเยี่ยมและเลื่อนใช้งานได้อย่างง่ายดาย
– มีปุ่มที่ตั้งโปรแกรมได้ ให้คุณปรับแต่งเมาส์ตามความต้องการของคุณเองโดยใช้ CUE
– มีแสง RGB ที่สามารถปรับได้ด้วย CUE
-ในการแข่งขันเรื่องราคา ทำให้ Sabre RGB เป็นต่อเรื่องราคาและประสิทธิที่ยอดเยี่ยม |
– การออกแบบอาจจะไม่สะดวกสบายสำหรับผู้ใช้บางคน |
สรุปแล้ว เมาส์เกมมิ่งที่มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ก็ขึ้นอยู่กับประเภทเกมที่แตกต่างกันออกไป ปัจจุบันนี้มีแบรนด์ใหญ่ ๆ ต่าง ๆมากมายได้คิดค้นเมาส์เกมมิ่งใหม่ๆขึ้นมาทุกวัน โดยบริษัทใหญ่ ๆ ที่มีชื่อเสียงก็อย่างเช่น Logitech, Razer, Mad Catz, CM storm และอีกมากมาย มันก็ดีที่ทำให้เรามีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น แต่มันก็ทำให้เราตัดสินใจเลือกซื้อได้ยากขึ้นเหมือนกัน ดังนั้นแล้วเหล่าเกมเมอร์ควรจะต้องรู้จักสไตล์การเล่นเกมที่ชอบ ก่อนที่จะเลือกซื้อเมาส์ โดยเราหวังว่ารายการเมาส์ทั้ง 10 ตัวนี้ จะช่วยให้คุณได้ตัดสินใจเลือกเมาส์ที่เหมาะกับตัวคุณเอง เพื่อเติมเต็มประสบการณ์เล่นเกมที่ดีเยี่ยมให้กับคุณ
คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับเม้าส์เล่นเกม
เมาส์ธรรมดา กับเมาส์เกมมิ่ง ต่างกันยังไง?
เมาส์ที่ใช้สำหรับ “การเล่นเกม” และเมาส์แบบมาตรฐานทั่วไป มีรูปแบบการใช้งานที่คล้ายคลึงกัน แต่กลไกในเมาส์สำหรับเล่นเกมนั้นจะดีกว่า เนื่องจาก เมาส์ที่ใช้สำหรับการเล่นเกมนั้นจะสามารถปรับค่า DPI ได้อย่างละเอียด และจะมีปุ่มเสริมเพิ่มขึ้นมาจากแบบเดิม
เมาส์เกมมิ่ง สำคัญกับการเล่นเกมอย่างไร ?
เมาส์เกมมิ่ง ออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงที่ออกแบบมาให้มีส่วนเว้าส่วนโค้ง เข้ากับมือของผู้เล่น ้เพื่อทำให้ควบคุมได้ถนัดมากขึ้น รวมถึงความละเอียดของเกมมิ่งเมาส์ (DPI) ที่สูงกว่าเมาส์ทั่วไป ซึ่งจะลดระยะทางในการเลื่อนเมาส์ในแต่ละครั้งให้น้อยลง
เลือกเมาส์ เล่นเกม อย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง?
ผู้เล่นควรตัดสินใจเลือกสไตล์การจับเมาส์ให้เหมาะสมกับตนเองที่สุด เลือกทีจับได้ถนัดมือที่สุด สามารถคลิกปุ่มต่างๆ ได้สะดวก เลือกเมาส์ที่มีปุ่มเสริมเท่าที่จำเป็นต้องใช้เท่านั้น ถ้าใครที่ถนัดการสั่งการผ่านคีย์บอร์ด ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ปุ่มเสริมมากมาย
เมาส์เล่นเกมมีสาย หรือไร้สาย ดีกว่ากัน?
ในปัจจุบันเริ่มมีเมาส์แบบไร้สาย (Wireless Mouse) วางจำหน่ายกันมากขึ้น ซึ่งคุณภาพในการเล่นเกม ไม่ได้มีความแตกต่างจากเมาส์แบบมีสายเท่าไรนัก แต่เมาส์ไร้สาย จะมีราคาที่สูงกว่าในคุณสมบัติที่เท่ากัน จึงอยู่ที่ทุนทรัพย์ของผู้ซื้อ ว่าจะสะดวกแบบไหนมากกว่า